ประโยชน์ของเห็ดนางรม รสชาติหวานอร่อย อุดมด้วยกรดโฟลิก ช่วยแก้เหน็บชา ป้องกันโลหิตจาง
Advertisements
ประโยชน์ของเห็ดนางรม รสชาติหวานอร่อย อุดมด้วยกรดโฟลิก ช่วยแก้เหน็บชา ป้องกันโลหิตจาง
“เห็ดนางรม” จัดเป็นเห็ดที่อยู่ในตระกูลเดียวกับเห็ดนางฟ้าและเห็ดเป๋าฮื้อ แค่เกริ่นมาสั้นๆ ก็อาจไม่ต้องบรรยายมากก็ได้ว่าเห็ดนางรมนั้นมีประโยชน์และสรรพคุณอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกับเห็ดชนิดอื่นๆ เลย แต่จะไม่กล่าวถึงก็คงไม่ได้เช่นกัน เพราะเห็ดชนิดนี้ยังมีคุณค่าดีๆ ที่แตกต่างออกไปจนหลายคนคงคาดไม่ถึงทีเดียว
บางคนอาจยังไม่ทราบว่า เห็ดนางรมมีถิ่นอยู่ในประเทศแถบยุโรป เป็นเห็ดที่ชอบขึ้นตามไม้จำพวกไม้โอ๊ก ไม้เมเปิล ไม้พีช เป็นต้น และจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศทั่วไปที่อบอุ่น โดยได้แพร่หลายมาในประเทศไทย จากการนำมาทดลองเพาะก็พบว่า เห็ดนางรมสามารถเจริญเติบโตในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี จนทำให้ได้รับความนิยมบริโภคจากคนไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับการที่เห็ดนางรมมีสรรพคุณทางยาและคุณค่าทางสารอาหารอยู่มาก จึงส่งผลให้เราสามารถพบเห็นเห็ดชนิดนี้อยู่เสมอ แถมยังอาจเป็นเมนูโปรดของบางคนด้วย
เนื่องจากเห็ดนางรมนั้นมีรสชาติหวานอร่อย กลับมาที่ประโยชน์ของเห็ดนางรมกันบ้าง หากใครที่มีปัญหาน้ำหนักเกิน เป็นโรคที่มีสาเหตุสำคัญมาจากไขมันแล้วละก็ ห้ามมองผ่านเห็ดนางรมเด็ดขาด เพราะมีไขมันต่ำ และมีเส้นใยอาหารสูง
นอกจากนี้ยังมีสารอาหารที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกายอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ วิตามินต่างๆ และให้พลังงานค่อนข้างสูง จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการและป้องกันโรคได้สารพพัด อาทิ โรคโลหิตจาง โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคเบาหวาน เริ่มจะเห็นด้วยกันแล้วใช่ไหมว่าเห็ดนางรมเนี่ยน่ากินจริงๆ
11 สรรพคุณของเห็ดนางรม
1. สรรพคุณเด่นเห็ดนางรมอุดมด้วยกรดโฟลิก ซึ่งมีมากกว่าในพืชผักและเนื้อสัตว์หลายชนิด มีประโยชน์ในการช่วยรักษาภาวะซีดหรือโรคโลหิตจางได้เป็นอย่างดี จึงส่งผลดีต่อคนที่เป็นโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิต โดยจะช่วยปรับความดันโลหิตและความเข้มข้นของไขมันในเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด
2. เห็ดนางรมยังเหมาะที่จะเป็นอาหารของหญิงตั้งครรภ์ เพราะมีสรรพคุณช่วยป้องกันความพิการของทารกแรกเกิด และช่วยสร้างน้ำนมให้แก่คุณแม่หลังคลอดด้วย
3. ประโยชน์ของเห็นนางรมใช้เป็นอาหารควบคุมน้ำหนัก ซึ่งเห็ดนางรมเป็นผักที่มีปริมาณของไขมันต่ำมากจึงช่วยลดน้ำหนักได้ดี หากใครกำลังที่มีปัญหาของน้ำหนักเกินมาตรฐาน ให้หันมาสนใจเห็ดนางรมกันมากขึ้นสิรับรองว่าไม่ผิดหวัง รวมทั้งคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักก็กินดีเหมือนกัน เพราะเห็ดนางรมนั้นให้พลังงานสูง
4. เห็ดนางรมมีวิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 สูงกว่าเห็ดชนิดอื่น ซึ่งเป็นกลุ่มของวิตามินที่ร่างกายไม่ได้ต้องการมากแต่จำเป็นต้องได้รับทุกวัน โดยจะทำงานร่วมกับสารอาหารชนิดอื่น มีสรรพคุณเด่นช่วยบรรเทาอาการเมารถ เมาเรือ หรือเมาเครื่องบิน และรักษาโรคปากนกกระจอกซึ่งมีสาเหตุจากการขาดวิตามินบีนั่นเอง
5. สรรพคุณเห็ดนางรมมีปริมาณของโซเดียมต่ำ จึงมักถูกแนะนำให้เป็นอาหารของคนที่ป่วยเป็นโรคหัวใจและโรคไตอักเสบ ซึ่งจำเป็นต้องจำกัดระดับของโซเดียมในร่างกาย เพื่อให้หัวใจและไตทำงานอย่างเป็นปกติ
6. เห็ดนางรมช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆ เข้าสู่ร่างกายได้ ส่งผลให้สุขภาพแข็งแรง ร่างกายไม่เจ็บป่วยง่าย และเป็นยาช่วยป้องกันโรคหวัดที่ดีด้วย
7. เห็ดนางรมมีสรรพคุณช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้ายและเซลล์มะเร็งได้ และมีความสามารถช่วยลดการก่อให้เกิดโรคของเชื้อจุลินทรีย์
8. เห็ดนางรมมีคุณสมบัติในการบำบัดอาการปวดตามร่างกาย อาทิ ปวดเอว ปวดขา บรรเทาอาการเหน็บชา หรือชาตามแขนขา อาการเส้นเอ็นยึด รวมทั้งช่วยลดอาการอักเสบได้เป็นอย่างดี
9. ประโยชน์ของเห็ดนางรมช่วยดูแลกระดูกและฟัน โดยเห็ดนางรมจัดเป็นแหล่งของแคลเซียมสูง ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระดูกเสื่อม กระดูกหักง่าย และโรคกระดูกพรุน ซึ่งจะเกิดขึ้นมากกับคนในช่วงวัยที่มีอายุเพิ่มขึ้น
10. เห็ดนางรมมีโพแทสเซียม ช่วยให้ร่างกายสามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดี ส่งผลให้ระบบการทำงานของสมองดีขึ้น ทำให้จิตใจแจ่มใสร่าเริงด้วย รวมทั้งยังช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น
11. ประโยชน์ของเห็นนางรมดีต่อระบบย่อยอาหาร ซึ่งเห็ดนางรมทำให้การทำงานของระบบย่อยอาหารภายในร่างกายเป็นไปอย่างปกติ ซึ่งจะช่วยป้องกันและรักษาโรคกระเพาะอาหาร
จากสรรพคุณและประโยชน์ของเห็ดนางรมดังที่ได้กล่าวมาในข้างต้นนี้ มิเสียแรงเลยที่อยู่ในตระกูลเห็ด เพราะมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมายจนนับไม่ถ้วนทีเดียว ดังนั้น ใครที่มีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เจ็บป่วยง่าย หรือมักเป็นโรคต่างๆ อยู่บ่อยๆ ก็ลองให้เห็ดนางรมมาเป็นอาหารโปรดของตัวเองกันบ้างก็ดีนะ
ที่มา...https://sukkaphap-d.com/
Advertisements
Post a Comment