เผย 8 ประโยคที่ไม่ควรพูดกับเพื่อน…แม้จะสนิทแค่ไหนก็ตาม
Advertisements
เผย 8 ประโยคที่ไม่ควรพูดกับเพื่อน…แม้จะสนิทแค่ไหนก็ตาม
แม้จะเป็นเพื่อนสนิทกันแค่ไหน คุยเม้าท์มอยกันทุกวันทุกเวลา แต่สุดท้ายแล้วทุกคนล้วนต้องการพื้นที่ส่วนตัวเสมอและต้องการเก็บเรื่องบางอย่างไว้ในใจไม่อยากจะบอกใคร เรื่องบางเรื่องเราอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่น่าจะเม้าท์กันได้
หลายคนอาจคิดว่า เพื่อนกันก็ไม่เห็นต้องปิดบังกันเลย เพื่อนกันก็ต้องคุยกันได้ทุกเรื่องสิ เพื่อนกันต้องพูดตรงๆ กันได้สิ แต่กลายเป็นว่า ยิ่งพูดยิ่งทะเลาะกันจนถึงขั้นเลิกคบกันเลยก็มี นั่นอาจเป็นเพราะคำพูดติดปากแย่ๆ 8 ประโยคต่อไปนี้
8 ประโยคที่ไม่ควรพูดกับเพื่อน
1.เห็นไหม ฉันบอกแล้ว!
ประโยคนี้เรามักได้ยินบ่อยๆ เมื่อเวลาเราทำอะไรบางอย่างที่ตรงข้ามกับคำแนะนำจากคนอื่นแล้วดันล้มเหลวขึ้นมา เราอาจบอกได้ว่าประโยคนี้เป็นหนึ่งในประโยคที่ทำให้คนฟังเสียใจมากกว่าการดุ การตำหนิเสียอีก เพราะเป็นประโยคที่ทำให้คนฟังรู้สึกผิดกับตัวเอง รู้สึกแย่กับตัวเอง เป็นการ ซ้ำ เ ติ ม ในสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว และไม่มีประโยชน์ ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา
ประโยคนี้ เป็นประโยคที่ไม่ควรพูดกับเพื่อน แม้เราจะรู้สึกว่า เห็นไหม ฉันบอกแล้ว แต่เธอไม่ยอมทำตามที่ฉันบอก เชื่อไหมว่า เพื่อนน่ะรู้ตัวเองดีอยู่แล้วว่าเขาได้ทำผิดพลาดไปแล้ว ที่กลับมาหาเราไม่ได้อยากให้เรามาตอกย้ำซ้ำเติม แต่อยากกลับมาขอคำแนะนำอีกครั้งยังไงล่ะ ถ้าอยากเป็นเพื่อนที่ดี ก็ควรพูดให้กำลังใจเพื่อนดีกว่า ไม่เป็นไรนะ ใครๆ ก็พลาดกันได้ มาเริ่มกันใหม่เถอะ เห็นไหม ดีกว่าตั้งเยอะ!
2.ทำไมเธอถึงเลือกอันนี้ล่ะ ฉันไม่ชอบเลย
ไม่ว่าเพื่อนจะเลือกอะไร จะเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า งาน อาหาร หรือเลือกผู้ชาย นั่นหมายถึงรสนิยมของเพื่อน หมายความว่านั่นเป็นสิ่งที่เพื่อนเราชอบและพอใจกับมัน เพื่อนที่หวังดีจะยินดีที่เพื่อนมีความสุขกับที่สิ่งที่มี ส่วนเพื่อนที่คิดว่าตัวเองหวังดีจะพูดคำว่า ทำไมเธอถึงเลือกอันนี้ล่ะ ฉันไม่ชอบเลย
ก่อนอื่นเลยบอกตัวเองก่อนว่า นั่นคือของเพื่อน ไม่ใช่ของเรา เราไม่จำเป็นต้องชอบหมือนเพื่อน และจำไว้ว่าประโยคนี้อาจทำเพื่อนเสียความมั่นใจได้ เพื่อนจะคิดว่า สิ่งที่เราเลือกมาไม่ดีอย่างไร จนหมดความมั่นใจการตัดสินใจต่างๆ
หากคุณหวังดีอยากช่วยแนะนำเขาจริงๆ ให้เขาเอ่ยปากถามก่อนดีกว่า หรืออาจแนะนำหนังสือหรือบทความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เพื่อนกำลังจะเลือกนั้นให้ก็ได้ ให้เขาได้คิดและตัดสินใจเอง แล้วยินดีที่เพื่อนชอบมันดีกว่า
3.ฉันไม่ชอบแฟนเธอเลย ไม่ถูกชะตาเลย
เราชอบเพื่อนเรา และเราก็ควรจะชอบคนรอบตัวของเพื่อนเราด้วย แม้อาจจะรู้สึกไม่ถูกชะตา หรือใครคนนั้นทำใ้ห้คุณไม่พอใจ แต่ก็ไม่ควรบอกเพื่อนไปตรงๆ ว่า เราไม่ชอบแฟนเธอเลย หรือไม่ชอบพี่น้องของเขา
แม้เขาจะมาเล่าเม้าพี่น้องหรือแฟนตัวเองให้เราฟังยังไง เราก็ไม่ควรพูดแบบนั้นออกไปในเชิงสนับสนุน เพราะเพื่อนอาจจะเม้าท์ด้วยอารมณ์เท่านั้น เราเพียงแค่รับฟังเพื่อน และช่วยเพื่อนแก้ปัญหาแทนดีกว่า เพราะยังไงคนเหล่านั้นก็คือคนที่เพื่อนรัก ถ้าเราไม่ชอบเขาเพื่อนเราอาจจะลำบากใจ
ความรู้สึกไม่ชอบมันเกิดขึ้นได้ แต่เราไม่จำเป็นต้องพูดออกมา ขอเพียงแค่หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า การพูดคุยกันก็พอ หรือเพียงแค่รับฟังเวลาเพื่อนพูด และหาทางช่วยเพื่อนแก้ปัญหาความสัมพันธ์นั้นดีกว่า
4.ถ้าเธอลดความอ้วนนะ เธอจะดูดีกว่านี้อีก
ไม่มีใครอยากจะมีรูปร่างอ้วนหรอก และคนที่อ้วนซึ่งเป็นเพื่อนของเรา เชื่อไหมว่าพวกเขาก็รู้ตัวเองดีอยู่แล้วว่า ฉันอ้วน ฉันขาใหญ่ ฉันหน้ากลม โดยไม่ต้องมีใครบอก
ความอ้วนนอกจากทำให้หมดความมั่นใจแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพหลายๆ อย่าง หลายคนรู้ดีและตั้งใจจะลดความอ้วนให้ได้ แต่บางทีมันก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ขอแค่ไม่ฝืนและได้กำลังใจที่ดีจากคนรอบข้างด้วย
หลายคนเข้าใจผิดว่าหากพูดออกไปว่า ถ้าเธอลดความอ้วนนะ เธอจะสวยเธอจะหล่อกว่านี้อีก จะช่วยให้เพื่อนฮึดสู้ได้ แต่จริงๆ แล้วมันเป็นคำพูดที่ยิ่งบั่นทอนกำลังมากกว่า ประโยคแนวนี้ที่เรามักพบบ่อยๆ อีกก็เช่น ดูอ้วนขึ้นนะ ลดน้ำหนักได้แล้ว ไปทำอะไรมาทำไมอ้วนขึ้น เมื่อก่อนผอมกว่านี้ใช่ไหม
ความสวยความหล่อนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปร่างหรือหน้าตา แต่มันอยู่ที่ความมั่นใจในแบบของตัวเอง หากอยากจะให้กำลังใจเพื่อน ขอแนะนำว่า ให้เพื่อนสร้างพลังใจด้วยตัวเองดีกว่า เมื่อเพื่อนใจพร้อมกายพร้อม เราเพียงแค่ให้กำลังใจและให้คำแนะนำดีๆ มีประโยชน์ดีกว่า
5.ไปทำอะไรมา ทำไมทรงผมถึงเป็นแบบนั้น
หลังจากเข้าร้านทำผม แม้คนที่มั่นใจมากๆ ก็อาจจะเป๋ได้ (ฮา) การเข้าร้านตัดผม เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบง่ายๆ ที่เห็นผลทันตา ไม่ว่าจะไปทำสีผม เปลี่ยนทรงผม ตัดผมสั้น ช่างตัดผมมักทำอะไรที่เราไม่คาดคิดเสมอ
บางคนมั่นใจและชอบในทรงผมใหม่ตัวเองมากๆ แต่เมื่อเจอคำพูดจากเพื่อนรักทักไปว่า ไปทำอะไรมา ทำไมทรงผมถึงเป็นแบบนั้น แม้เราจะถามจริงๆ หรือแซวเล่น ก็อาจะทำให้เขาเสียความมั่นใจได้ ยิ่งถ้าเพื่อนที่ไม่มั่นใจตั้งแต่เดินออกจากร้านทำผมแล้วล่ะก็ยิ่งเสียใจ รู้สึกแย่ไปกันใหญ่
หากอยากจะทักล่ะก็ มองหาข้อดีๆ ให้กับสิ่งที่เปลี่ยนไปและแก้ไขไม่ได้ดีกว่า เช่น บอกเพื่อนว่า ผมสั้นทำให้ดูหน้าเด็กลง ลดการผมร่วง ดูแลง่าย หรือเปลี่ยนสีผมมาแล้วไม่มั่นใจ อาจมองหาเทคนิคการแต่งหน้าแต่งตัวให้เข้ากับสีผมทรงผมดีกว่า แบบนี้สิเพื่อนที่ดีเขาทำกัน
6.เรื่องนี้ไม่รู้หรอ ไปอยู่ไหนมา
เรื่องแค่นี้ไม่รุู้หรอ ก้ใช่น่ะสิ! ไม่มีใครรุ้เรื่องทุกอย่างในโลกใบนี้หรอก ทุกคนต้องมีเรื่องที่สนใจและเรื่องไม่สนใจต่างกัน ถ้าเราพูดอะไรออกไป แล้วเพื่อนบอกว่าไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ไม่เคยได้ยินมาก่อน แม้จะเป็นเรื่องดังเป็นกระแสอยู่ก็ตาม ก็แค่อธิบายให้เพื่อนฟัง เล่าให้เพื่อนฟัง แต่อย่าขึ้นต้นประโยคว่า เรื่องนี้ไม่รู้หรอ ไปอยู่ไหนมา
7.เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องคิดมากเลย
คำว่า เรื่องแค่นี้ ไม่เห็นต้องคิดมากเลย ฟังดูเหมือนอยากให้กำลังใจเพื่อน อยากปลอบเพื่อนว่าไม่ต้องคิดมาก แต่ยิ่งทำให้เพื่อนคิดมากไปกันใหญ่ เพราะเรื่องแค่นี้ของเราอาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนอื่น และเรื่องใหญ่ของคนอื่นก็อาจดูเหมือนเรื่องแค่นี้สำหรับเรา นั่นหมายความว่า ไม่ว่าเรื่องใดเราก็ไม่ควรเอาความรู้สึกของตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง เพราะเราทุกคนแตกต่างกัน ทั้งครอบครัว แนวคิด การใช้ชีวิตต่างๆ การรับมือกับปัญหาและการหาทางแก้ไขจึงแตกต่างกันไป
ทางที่ดี ควรช่วยเพื่อนหาทางแก้ไขดีกว่า ไม่ว่าเรื่องอะไรที่คิดมากอยู่ เราบอกเพื่อนได้ว่า อย่าคิดมาก ทุกปัญหามีทางออก แต่อย่าบอกว่า ปัญหาของเพื่อนมันเป็นเรื่องเล็กน้อย
8.เธอได้เงินเดือนเท่าไหร่หรอ
เวลาเห็นเพื่อนมีเงินช็อปปิ้ง กินของแพง เที่ยวต่างประเทศ เพื่อนบางคนมักชอบถามว่า เงินเดือนเท่าไหร่ ทำไมมีเงินซื้อของแพง มีเงินช็อปปิ้ง
ไม่ว่าเขาจะเงินเดือนเท่าไหร่ มีสถานะการเงินอย่างไร มีหนี้เยอะไหม จะใช้เงินไปกับอะไรบ้าง เราก็ไม่ควรคิดไปเองหรือไปถามตรงๆ เพื่อนใช้เงินแบบไหนก็เรื่องของเพื่อน มันคือความสุขความพอใจของเขา แต่ถ้าเพื่อนมีปัญหาเรื่องการเงินแล้วมาปรึกษา ก็ค่อยให้คำแนะนำดีๆ แก่เพื่อนดีกว่า (ยกเว้นเพื่อนมาขอยืมเงินนะ แบบนั้นต้องคิดดีๆ ว่าเพื่อนคนนี้ควรให้ยืมไหม)
ยิ่งสนิทกันก้ยิ่งต้องเกรงใจกัน ถ้าเพื่อนคุณเปิดปากพูดขึ้นมาเอง
เราก็แค่รับฟัง ช่วยแก้ปัญหา แต่อย่าพูดต่อ
อย่าเอาปัญหาเพื่อนหรือความลับของเพื่อนไปเม้าท์ต่อนะ
แบบนี้ไม่มีใครอยากคบด้วยหรอก
ขอขอบคุณที่มา จาก goodlifeupdate
Advertisements
Post a Comment