บา งคนร ว ยแล้ว ชอบลืมตัว ลืมว่าตัวเองเค ยมาจ า กไห น
Advertisements
บา งคนร ว ยแล้ว ชอบลืมตัว ลืมว่าตัวเองเค ยมาจ า กไห น
ในช่วงชีวิตคนเรานั้นมีทั้ง ขาขึ้น และ ขาลง ย ามขึ้นอย่ างหลง
ย ามลงอย่ าท้อ คนจนขยันทำมาหากินก็รวยได้ คนรวยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ไม่รู้จักหาเพิ่มก็หมดตัวได้ บางคนรวยแล้วลืมตัวไม่รู้ว่าตัวเองมาจากไหน
ดูถูกคนอื่น อย่ าลืมนะว่ารวยได้ก็ต้องจนได้เหมือนกันไม่มีใครโชคดีตลอด
ไป ดั่งเรื่องราวต่อไปนี้ที่อย ากจะเล่าสู่กันฟัง
ชีวิตมีขึ้นมีลง อย่ าดูถูกใครที่ด้อยกว่า เพราะวันหนึ่งคุณอาจต้องไปขอ
ความช่วยเหลือจากเขา บทเรียนชีวิตจากเรื่องจริงที่เตือนใจเราว่า
“ รวยแล้วอย่ าทะนงและลืมตัว…ลำบากตอนแก่น่าอนาถใจที่สุด ”
มีอดีตเศรษฐีท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า….
เมื่อก่อนผมมีที่ดินอยุ่ในแทบทุกเขตของกรุงเทพ และ ตามหัวเมือง
ใหญ่ๆทั่วประเทศ รวมๆแล้ว ประมาณ 500 ไร่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว
ผมพกเงินในกระเป๋าไว้เที่ยวครั้งละเป็นแสน ทำมาค้าขายได้เงินดีจริงๆ
ลูกๆ ผมส่งเรียนเมืองนอกหมด ไม่ต้องทำงานให้เรียนอย่ างเดียว
เมียผมชอบเล่นหุ้นๆ ราคาหุ้นก็ขึ้นเอาๆ เราก็ได้กำไรมามากมาย เรามี
เงินสดหลายร้อยล้านอยู่มาวันหนึ่ง… มีญาติผมคนหนึ่งเดือดร้อนมายืมเงิน
ผม ผมด่าเขาซะเสียๆหายๆ ( ด้วยความที่คิดว่าตนเองมีเงินมาก จะพูดอะไร
กับใครยังไงก็ได้ )
แต่ก็ให้เงินไปนะแสนนึงแล้วบอกเขาว่าไม่ต้องมาหาข้าอีกนะ
ข้าให้ทาน เขารับเงินพร้อมน้ำตา “ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าเขาจะรู้สึกยัง
ไง”เมื่อผมคิดการใหญ่ตั้งโรงงานอะไหล่ที่อยุธย า ปีนั้นเกิดวิกฤตน้ำท่วม
หนัก น้ำพัดพาทุกอย่ างไปจากชีวิตผมจริงๆ รถผม 19 คัน บ้านอีก 5 หลัง
ที่ดินทั้งหมด และ เงินสดที่เคยมีแฟนผมเล่นหุ้นเจ๊งไปสี่ร้อยกว่าล้าน ลูกๆ
ทำธุรกิจก็หมดตัวขาดทุนย่อยยับ ภายใน 2 ปีสิ่งที่ผมมีมันหายไปเหลือไว้
เพียงหนี้สินสองร้อยกว่าล้าน
ปัจจุบันผมคือบุคคลล้มละลาย เช่าห้องแถวอยู่พอได้ขายก๋วยเตี๋ยวประทัง
ชีวิตไปวันๆ เมียผมก็ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรลูกๆ ผมก็ต่างแยกย้ายกันไป
เอาตัวรอดตามเส้นทางชีวิตของตัวเอง ผมไม่เคยได้เห็นหน้าลูกๆอีกเลย
ตอนนี้ผมอายุ 76 ผมต้องยกหม้อก๋วยเตี๋ยว ล้างจาน แต่ทุกวันนี้ผมปลงได้
แล้วนะ ผมมาลำบากตอนแก่ แต่ก็เริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้นเงินค่าเช่าห้องนี้ผม
ไปยืมกับคนที่ผมเคยด่าเขา แล้วให้เขาไปแสนนึง ลูกเขายื่นเงินให้ผมแสน
ห้าแล้วบอกผมว่า..
“ พ่อผมบากหน้าไปยืมเงินคุณลุง เพราะตอนนั้นผมเข้าโรงพย าบาลผ่ า
ตั ด เพื่อให้รอด พ่อนั่งร้องไห้คุณลุงด่าแล้วโยนเงินให้เหมือนหมา
ลุงบอกว่าจะตีพ่อพ่อก็ยอม เพราะชีวิตลูกมีค่ามากกว่าสิ่งใด
ต่อให้ทำ ร้ า ย ร่ า ง ก า ยและจิตใจพ่อก็ยอม ถ้ามีเงินจะให้หามา
คืนคุณลุง แสนนี้ผมคืน ห้าหมื่นคือดอกเบี้ย เราไม่มีหนี้บุญคุณกันแต่
ถ้าคุณลุงลำบากคุณลุงมายืมกับผมๆ จะให้ข้า
ผมจะไม่ด่าคุณลุงเหมือนที่คุณลุงด่าพ่อผม
จริงๆ ถ้าไม่มีเงินคุณลุงผมคงไม่รอด เพราะเงินแสนที่คุณลุงโยน
ให้พ่อผมนี่แหละ ที่ต่อชีวิตให้ผมผมทำตามที่พ่อบอกแล้ว
ให้ตอบแทนหนี้ก้อนนี้ให้คุณลุง ส่วนลูกคุณลุงผมไม่รู้
ก ร ร มของใครของมัน”ผมเดินร้องไห้มาถึงบ้านเอาเงินมาจ่ายค่าเช่า
ห้องแถว และ ลงทุนร้านก๋วยเตี๋ยวเพิ่ม มีเงินเก็บไว้ 30,000 บาท
และผมเข้าใจความรู้สึกของคำว่า “ก ร ร มนั้นตามสนอง”
หลานไม่ได้ด่าผม แต่หลานพูดความจริง เพียงแต่ผมรับความจริง
ไม่ได้แต่ตอนนี้ผมมีความสุขดีนะ พระ แม่ชี ขอทาน มากินก๋วยเตี๋ยว
ที่ร้านผม ผมไม่คิดเงินตอนผมมีเยอะๆ ผมเบื่อคนบอกบุญ ผมไม่เคย
ทำบุญ ผมเที่ยว ผมกิน ผมมีผู้หญิง
ตอนนี้ผมหมดตัวมีหนี้สิน สิ้นเพื่อน ไร้ลูก ผมถึงได้ฟังธรรมะ
เข้าวัดเป็น รู้จักทานตอนนี้ผมห่วงแค่เมียผม ผมภาวนาให้เมียไปก่อนผม
เพราะไม่อย ากเห็นเมียลำบากไม่ต้องถามว่าร้านอยู่แถวไหนเพราะ
จะไม่บอก เก็บเรื่องราวมาให้อ่าน
คนอ่านจบได้กำไร คนขี้เกียจอ่านก็คงพลาดโอกาส“ไม่มีคำว่าย ากจน
สำหรับคนขยัน ไม่มีการปลงตกถ้าไม่เคยสูงสุดแล้วมาต่ำสุด”เรื่องนี้สอนใจ
ได้ดีเหลือเกิน ถือว่าเป็นการสอนใจสำหรับใครหลายๆคนที่ทะนงตนและ
ลืมตัวใช่เพื่อเตือนใจตัวเองนะครับ
ที่มา : bitcoretech
Advertisements
Post a Comment