12 ข้อคิดมองโลกในแง่ดี หัดเป็นคนอารมณ์ดี ง่ายๆ อ่านเตือนตนนะ

Advertisements

12 ข้อคิดมองโลกในแง่ดี หัดเป็นคนอารมณ์ดี ง่ายๆ อ่านเตือนตนนะ

1. พย าย ามมองหาข้อดีในเรื่องร้ า ยๆ ที่เกิดขึ้น

ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น มันจะมีสองด้านเสมอ เพียงแต่ว่าเราจะตีความมันอย่ างไร

ตัวอย่ างเช่น การที่เราถูกคนรักทิ้งเราไป เรารู้สึกเ  สี  ยใจเป็นอย่ างมาก

รู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นเรื่องที่เ ล วร้ า ยที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา

แต่อันที่จริงแล้ว ถ้าเราพย าย ามมองถึงข้อดีที่เกิดขึ้นในสถานการณ์นี้

มันอาจจะเป็นเวลาที่เราจะได้กลับมาอยู่กับตัวเองอีกครั้ง

ค้นพบในสิ่งที่เราชอบ ตัวตนของตัวเองอย่ างแท้จริง

และปฏิวัติชีวิตใหม่ เพื่อให้เราเป็นคนที่มีศักยภาพสูงที่สุดก็ได้ ดังนั้น

ไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวเ ล วร้ า ยแค่ไหนในชีวิตเรา ให้ถามตัวเองว่า

เราได้อะไรบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตเราจากเรื่องนี้

2. สร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นบวก

คนที่อยู่รอบตัวเรา มีอิทธิพลอย่ างมาก ต่อความคิด

ความรู้สึกของเรา ดังนั้น การเลือกคบคน

จึงเป็นสิ่งสำคัญ เราควรที่จะเลือกคบคนที่มีความคิดเป็นบวก

มีความคิดก้าวหน้า ที่จะนำพาชีวิตเราไปในทิศทางที่ดี

นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงสื่อต่างๆ ที่เราเ  ส  พ

ถามตัวเองว่า เรื่องราวต่างๆ ที่เราเสพนั้น

มีผลดีอย่ างไรกับชีวิตเรา ถ้าหากมันทำให้เรามีความคิดลบๆ

ก็ปิดช่องทางการรับสื่อนั้นๆ เ  สี  ย

3. ใช้ชีวิตให้ช้าลง

บางครั้งในการที่เราทำอะไรเร็วเกินไป เราอาจจะตัดสินใจผิ  ด  พลาด

ใช้สัญชาตญาณมากกว่าสติ เพื่อพิจารณาสิ่งต่างๆให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะตัดสินใจ

การที่เราใช้ชีวิตให้ช้าลงสักหน่อย จะช่วยทำให้ทั้งใจและกายของเราสงบลงเช่นกัน

4. อย่ าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

ในบางครั้งเราเ  อ  า  ทุกเรื่องมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับมันมากเกินไปแพรเคยอ่านหนังสือ

เรื่อง t h e m a g i c o f t h i n k i n g b i g ซึ่งมีตอนหนึ่งได้กล่  า  วไว้ว่า

ให้เราถามตัวเองว่า เรื่องนี้มันมีความสำคัญกับเราขนาดนั้นจริงๆ

เหรอ ก่อนที่เราจะมีปฏิกริย าตอบสนองกับสิ่งนั้น ให้เราโฟกัสไปที่เป้าหมาย

ที่เราต้องการ แทนที่จะใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ตัวอย่ างเช่น เราต้องการ

ที่จะได้สัญญาที่ลูกน้องลงนาม แต่กว่าที่จะได้มา

ต้องผ่  า  นการติดต่อประสานงานกับคนที่ไม่มีความรับผิ  ด  ชอบ

ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด แทนที่จะเ  อ  าเรื่องนั้นๆ มาใส่ใจ และคิดต่อไปต่างๆ นานา

ให้โฟกัสในจุดประสงค์และเป้าหมายที่เราต้องการจะได้สิ่งนั้น ส่วนเรื่องอื่นๆ

ก็พย าย ามอย่ าเก็บมันเ  อ  ามาใส่ใจให้มากนัก เป็นต้น

5. คิดดีและทำดีกับคนอื่น
หากเรายิ้มให้คนอื่น เขาก็จะยิ้มกลับให้เรา คิดกับคนอื่นในแง่ดีเสมอๆ

และสิ่งดีๆ ก็จะกลับมาสู่ตัวเราเช่นกัน

6. ใช้ชีวิตที่ดี

การใช้ชีวิตที่ดี คือการดูแลเ  อ  าใจใส่ ทั้งสุขภาพกาย

และใจ โดยการนอนหลับให้เพียงพอ

รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ และออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ

หากเราสาม  า   รถรักษาคุณภาพชีวิตที่ดีไว้ได้แล้ว ความรู้สึกหงุดหงิด

ขุ่นข้องหมองใจ ก็จะลดน้อยลงไปด้วย

7. เรียนรู้ที่จะรับฟังคำวิพากวิจารณ์

คนเราหนีไม่พ้นคำวิพากวิจารณ์จากคนอื่น ซึ่งบ่อยครั้งอาจทำให้เรารู้สึกไม่ดี

เราควรเรียนรู้ที่จะรับมือกับมัน โดยการพิจารณาว่า คำวิพากวิจารณ์ที่เกิดขึ้นนั้น

มันจะช่วยให้เราปรับปรุงตัวเราให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้หรือไม่

หากคำวิพากวิจารณ์นั้นๆ ไม่เป็นความจริง ก็ให้ทำความเข้าใจว่า

คนที่พูด เขาอาจจะอยู่ในภาวะอารมณ์ที่ไม่ปกติ แล้วก็อย่ าไปเ  อ  าเรื่องราว

นั้นๆ มาใส่ใจให้มากมายนัก

8. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยใจที่เป็นบวก


ในแต่ละวัน การเริ่มต้นวันใหม่โดยนำพลังงานบวกเข้าตัว เป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก

เราอาจจะเริ่มต้นด้วยการ นั่งสมาธิเพื่อเคลียร์จิตใจ

ให้ปลอดโปร่ง วางแผนการทำงานในแต่ละวัน

รับประทานอาหารเช้าที่เป็นประโยชน์ เป็นต้น ซึ่งการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยสิ่งดีๆ

จะช่วยให้วันนั้นของคุณเป็นวันที่ดี มากกว่าจะเริ่มต้น

ด้วยความหงุดหงิด ขุ่นข้องหมองใจ

9. ฝึกเจริญสติตลอดทั้งวัน


การที่เราสาม  า   รถรู้เท่าทัน ความคิด ความรู้สึกของเรา จะทำให้เราสาม  า   รถใช้ชีวิต

ไปในทางที่เราต้องการได้อย่ างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวเรามีความสาม   า รถ

ในการจัดการกับสิ่งต่างๆ เหนือ อารมณ์ความรู้สึกชั่  ว  คราวที่เกิดขึ้นกับเรา

10. โฟกัสในเรื่องราวดีๆ

ในแต่ละวัน มีทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ไม่เป็นไปอย่ างที่ใจเราต้องการเกิดขึ้นเสมอๆ

แทนที่เราจะไป โฟกัสกับเรื่องราวที่ไม่ได้ดั่งใจ ให้เราโฟกัส

และรู้สึกขอบคุณกับเรื่องราว ดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของเราแทน

11.สร้างอารมณ์ขันกับเรื่องราวแย่ๆ ที่เกิดขึ้น

บางครั้งการมองเหตุการณ์ต่างๆ ให้เป็นเรื่องตลกก็สาม  า  รถช่วยเราเราได้มาก

ไม่ว่าเหตุการณ์ใดก็ตาม หากเราผ่  า   นไปได้ เมื่อเรามองย้อนกลับมา

มันอาจจะเป็นแค่เรื่องตลกเรื่องหนึ่งเท่านั้นก็ได้

12. เรียนรู้จากปัญหาที่เกิดขึ้น

สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นมาแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ ทุกเรื่องราวเกิดขึ้นเพื่อนำพาตัวเราไปยังจุด

ที่สูงที่สุดเสมอ เพียงแต่ว่า เราจะสาม  า  รถเรียนรู้ และจัดการกับมันได้หรือไม่

ดังนั้นหากเรากำลังประสบกับปัญหา แทนที่จะนั่งกร่น  ด่  า โ  ท  ษโชคชะตา

หรือสิ่งรอบตัว ให้เรา จัดการกับปัญหาด้วยสติปัญญา และเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น

เพื่อทำให้เราสาม  า  รถจัดการกับชีวิตของเราให้ดีขึ้นต่อไปในวันข้างหน้า


ขอบคุณแหล่งที่มา  verrysmilejung
Advertisements

ไม่มีความคิดเห็น