เตือนสติผู้หญิงด้วยกัน อย่าฝากชีวิต ของเราทั้งชีวิตไว้กับสามีเพียงคนเดียว

Advertisements

เตือนสติผู้หญิงด้วยกัน อย่าฝากชีวิต ของเราทั้งชีวิตไว้กับสามีเพียงคนเดียว

ในยุคนี้ ไม่ว่าชาย หรือหญิงก็ต้องเท่าเทียมกันทั้งงานบ้าน และงานนอกบ้าน เกิดเป็น หญิงยุคนี้ต้องสร้างฐานะด้วยตัวเอง ไม่ใช่รอแต่สามีอย่างเดียว เพราะยุคนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว คนที่เก่งคือคนที่เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ค่ะ

โลกสอนให้เราพึ่งตัวเองให้มากๆวันหนึ่งก็ต้องอยู่คนเดียว ทุกวันนี้อย่าคิดหรืออย่าหวังที่จะพึ่งพาคนอื่นเลยนะ สิ่งที่เราต้องทำมากที่สุดก็คือ พึ่งพาตัวเองให้ได้ เพราะไม่มีใครหรอกที่พร้อมจะช่วยเราตลอด 24 ชั่ วโมง

อย่าลืมนะว่าคนเรานั้นเมื่อถึงคราวแย่จริงๆ ก็ล้วนแล้วแต่เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ตัวเราเอง การไปหวังพึ่งพาคนอื่นเอาดาบหน้า ก็เหมือนกับเป็นการ ไปฝากความไม่แน่นอนเอาไว้กับคนอื่น เพราะเราไม่รู้เลยว่า เขาจะช่วยเราหรือเปล่า

เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจำเป็นที่จะต้องทำ และทำให้ได้ก็คือ การพย าย ามช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทำให้ไหว ไม่ต้องพึ่งพาใคร นั่นแหละคือสิ่งที่เราควรทำ และเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่เราจำเป็นต้องทำ เพราะถ้ามัวแต่หวังจะพึ่งคนอื่น มันก็คงจะสายเกินไป จงจำเอาไว้ให้ขึ้นใจอยู่เสมอว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

ฝ่ายชายมีเงินหนึ่งแสนห้าหมื่น ผู้หญิงมีเงินหนึ่งแสน ก่อนที่จะแต่งงาน ผู้ชายนำเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นไปดาวน์บ้าน ผู้หญิงนำเงินหนึ่งแสนไปตกแต่งบ้านและซื้อเครื่องใช้ต่างๆ

หลังแต่งงาน ผู้ชายผ่อนส่งค่างวดบ้าน สามพันหยวนทุกเดือน เงินเดือนคงเหลือหนึ่งพันหยวน ผู้หญิงเงินเดือนเดือนละสามพันหยวน ชายหญิงทั้งสองใช้ร่วมกัน

สามปีต่อมา ผู้หญิงตั้งครรค์ จากนั้นคลอดลูกออกมา ผู้ชายได้เลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงาน เงินเดือนเพิ่มเป็นเจ็ดพันหยวน ย ามนี้ เด็กต้องการคนดูแล หากจ้างพี่เลี้ยง

ต้องจ่ายเดือนละสองพันหยวน ชายและหญิงทั้งสอง ปรึกษาหารือกัน ตกลงตัดสินใจ ให้ผู้หญิงลาออกจากงาน เพื่ออยู่ดูแลลูก เช่นนี้แล้ว ผู้หญิงจึงกลายเป็นแม่บ้านเต็มตัว

สิบปีต่อมา ผู้ชายประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน รัศมีเปล่งปลั่ง ผู้หญิงคลุกคลีอยู่กับลูก สามี บ้าน ทุกๆวัน ราศีหม่นหมอง ย ามนี้ ผู้ชายรู้สึกว่า ภรรย าตนไม่สามารถพาเข้าสังคมอีกแล้ว

สิ่งยั่วยวนภายนอกก็ ช่างร้อนแรงเย้ายวนใจ สุดท้ายเลยมีภรรย าน้อยหลังจากภรรย ารู้เรื่องเข้า ทะเลาะ วิวาท สุดท้าย เศร้าเสียใจ ผู้ชายและผู้หญิงเตรียมตัวหย่ า ตามคำอธิบาย

ในตัวบทกฎหมาย ว่าด้วยการสมรส บ้าน ผู้ชายได้ซื้อก่อนแต่งงานผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ ผู้หญิงไม่ยอม บอกว่า พวกเราทั้งสองช่วยกันผ่อนค่างวด ทนายถามว่า เธอมีหลักฐานที่ร่วมกันผ่อนส่งค่างวดหรือไม่

ผู้หญิงตอบว่า ไม่มี ทุกเดือนจะหักจากบัญชีเงินเดือนของผู้ชายโดยตรง ผู้หญิงบอกอีกว่า ลูกฉันเป็นคนคลอดเอง ฉันเลี้ยงดูจนเติบใหญ่มากับมือ ลูกต้องตกเป็นของฉันทนายพูดว่า

ลูกจะตกเป็นของใคร เราจะดูว่า ใครมีความสามารถที่จะเอื้อประโยชน์ให้แก่เด็กมากที่สุด เธอไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ ไม่มีบ้าน ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ทางศาลจะตัดสินให้ตกเป็นของผู้ชาย

ย ามนี้ ผู้หญิงไม่มีบ้าน ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่มีลูก เธอสิ้นหวังแล้ว โลกของเธอล่มสลายไปแล้ว ส่วนผู้ชาย เริ่มต้นชีวิตใหม่ของของเขาผู้หญิงเธอยังกล้าที่จะนำเอาความสุขของทั้งชีวิต ฝากฝังไว้กับคนอื่นอีกหรือไม่

บนโลกใบนี้ ไม่มีใครให้คุณพึ่งพิงได้ตลอดชีวิต แม้แต่เงาของเธอเอง ก็จะห่างหายไปจากเธอ ในความมืดใช่แล้วแรกเริ่ม ผู้ชายรักเธอมาก แต่ผู้หญิงโดยส่วนมากแล้ว

มักจะละเลยสิ่งสำคัญที่สุดไป นั่นก็คือ คน ขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ ล้วนที่จะแปรเปลี่ยนไป ได้ทุกเมื่อทุกเวลา

ผู้หญิงที่มีอาชีพ มีความอิสระของตนเอง จึงจะดำรงชีวิตได้ตามแบบฉบับตัวตนที่แท้จริงของตนเอง จึงสามารถสร้างความมั่นคงในการใช้ชีวิตคู่เพราะทุกๆคนล้วนชื่นชอบชื่นชมสิ่งสวยๆงามๆ

ใครจะยอมทนอยู่กับคนที่ไม่แต่งหน้าแต่งตัว ไม่พัฒนาตนเอง เกียจคร้าน อีกทั้งเป็นผู้หญิงที่เสื่อมโทรมแล้ว ได้ทุกวัน

ผู้หญิงเอ๋ยดีกับตัวเอง ทะนุถนอมตัวเองให้มากหน่อยเถิด ต้องสูงส่งถึงจะล้ำค่า คิดอย ากจะเป็นผู้หญิงที่แกร่ง รูปลักษณ์ของผู้หญิงเอง เป็นตัวตัดสินกำหนดว่า สำเร็จหรือล้มเหลว


ที่มา kha yam
Advertisements

ไม่มีความคิดเห็น