“อย่าเก็บขยะ จากปากใคร มาใส่ไว้ในใจเรา” แง่คิดสอนใจที่จะช่วยให้ชีวิตสงบ สบายใจได้อย่างแท้จริง
Advertisements
“อย่าเก็บขยะ จากปากใคร มาใส่ไว้ในใจเรา”
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ นี่เป็นอีกหนึ่งบทความดีๆ ที่ให้แง่คิดสอนใจสำหรับการnี่จะมีชีวิตสงบ สบายใจได้อย่างแท้จริงนั้น ก็ต้องหัดที่จะเป็นคนที่ไม่ยึดถือกับอะไรทั้งสิ้นเพราะสิ่งภายนอก ล้วนไม่แน่นอนเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะสิ่งของ หรือ ความรู้สึกของผู้คนรอบข้าง อย่างบางครั้ง ตอนแรกๆ เจอเพื่อนบางคน ก็คุยกันถูกคอ และรู้สึกสนิท
คนก็มักจะคิดไปเองว่า จะต้องเป็นแบบนั้นไปตลอด แต่ความจริงนั้นไม่ใช่ พอมาถึงจุดๆ หนึ่ง เพื่อนที่ว่า ก็จะเปลี่ยนไปเป็นอีกคน ที่ไม่ได้สนิทอะไรกับเราเลยก็เป็นได้ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เราอาจจะไม่ได้รู้จักกับเพื่อนจริงๆ เลยก็ได้ พอพูดไม่ตรงความเห็นไม่ตรง ก็ไม่ถูกใจ แม้ว่าเราจะไม่ได้ว่าหรือด่าอะไร เขาก็เริ่มไม่พอใจเราขึ้นมาง่ายๆ ก็มี เพราะเขาสนใจแต่ความรู้สึกส่วนตัวของเขาเองมากกว่า ที่จะพยายามเข้าใจคนอื่น
ส่วนความรักระหว่างชายกับหญิง อันนี้ก็น่าจะเจอบ่อยๆ และชัดมาก คือแรกๆ ก็หลง แต่ละฝ่ายก็หันแต่ด้านดีเข้าหากัน เพื่อให้อีกฝ่ายอยากคบหากันต่อ พูดจาเอาอกเอาใจกันสารพัดที่จะมอบแต่ด้านดีๆ เข้าหา การให้สิ่งของ เพื่อให้อีกฝ่ายอยากมาเจอ แล้วก็มักจะบอกว่านี่แหละคือคนที่ใช่ คนนี้แหละที่ฉันตามหามานาน หรือแม้กระทั่งจะพูดว่า ต่อไปจะมีคนนี้เพียงคนเดียว แต่สุดท้าย พอความรู้สึกและอะไรต่างๆ เริ่มเปลี่ยนไป เริ่มมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็เริ่มรู้สึกว่าคนนี้ไม่น่าจะใช่อีกต่อไปแล้ว ซึ่งพอเลิกันไป พอไปเจออีกคนวงจรเดิมก็จะเริ่มกลับมาใหม่อีกรอบ เป็นแบบนี้วนไป แทนที่จะเรียนรู้ว่า โลกใบนี้ไม่มีคนที่จะเอาใจ ตามใจและให้ทุกอย่างเราไปตลอดชีวิต และไม่มีใครเห็นด้วยกับเราไปซะทุกอย่าง
ในด้านความสัมพันธ์ในครอบครัว(พ่อแม่ลูก) ก็เห็นว่าลูกน่ารัก เอาใจ ตามใจลูกสารพัด ซึ่งลูกก็คิดว่า พ่อกับแม่จะดีแบบนี้กับตัวเองไปตลอด แต่สุดท้าย พอโตขึ้น พ่อแม่ก็ต้องสอนให้ขัดใจเพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ และปรับตัวให้เข้ากับสังคมให้ได้ มีการดุด่าว่ากล่าว อาจจะทำให้ลูกรู้สึกแย่ และขาดความมั่นใจในช่วงแรกๆ หรือถ้าเติบโตมาในครอบครัวที่แตกแยกครอบครัวที่มีการเลิกรากัน พ่อไปทางแม่ไปทาง ปล่อยให้ลูกอยู่กับญาติ ถ้ามีญาติดีก็ดีไป แต่ถ้ามีญาติที่มีพื้นฐานไม่ดีล่ะ เด็กคนนั้นจะเป็นอย่างไร อย่างที่ข่าวออกบ่อยๆ นั่นแหละครับ
แม้กระทั่งญาติๆ วันนึกเกิดถูกรางวัลใหญ่ พอญาติรู้ คนที่เคยเกลียด เคยไม่ชอบหน้าเรา ก็อาจจะกลับมานับญาติและเข้ามารายล้อมยกยอปอปั้นกันเหมือนไม่เคยไม่ชอบกันมาก่อนด้วยซ้ำ ซึ่งก็มักจะหลงคิดว่า จริงๆ แล้ว มีญาติดีๆ แต่จริงๆ เปล่าเลย เขามีทำดีด้วยก็เพราะผลประโยชน์เท่านั้น
เรื่องราวที่กล่าวไปทั้งหมดนี้ ก็เพียงแต่อยากจะสื่อว่า ทุกคนควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับความจริง อย่าคาดหวังกับสิ่งต่างๆ เพราะเราควบคุมอะไรในโลกนี้ไม่ได้ ไม่ว่าจะเพื่อน แฟน คนรัก พ่อแม่ ญาติ เพราะถ้าเราเลือกหรือควบคุมได้ ก็คงไม่มีใครมีทุกข์ ยังไงก็ขอให้จำไว้ว่า สิ่งที่เราควรสนใจและดูแลคือตัวเรานั่นเอง อย่าไปโหยหาจากคนอื่น เพราะถ้าหากไม่รักตัวเองแล้ว มันก็เป็นการยากที่จะใช้ชีวิตบนโลกนี้ให้มีความสุข
สุดท้ายนี้ที่อยากจะบอกก็คือ จงเรียนรู้ใจคนให้มากๆ แต่อย่าไปใส่ใจคำพูดของคนให้มาก หากคิดว่าทำอะไรแล้วมีความสุข ก็จงทำมันไปเถอะขอแค่เป็นสิ่งดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอแล้ว
เรียบเรียง: รักจังสยาม
ที่มา...https://www.rakjangsiam.com/archives/2578
Advertisements
Post a Comment