ใครทำได้จะดีมาก ข้อดีของการไม่กินข้าวเย็น ส่งผลให้ไม่แก่ ไม่อ้วน และอายุยืน

Advertisements

ใครทำได้จะดีมาก ข้อดีของการไม่กินข้าวเย็น ส่งผลให้ไม่แก่ ไม่อ้วน และอายุยืน

จริงๆ แล้ว คนเราควรรับประทานให้ครบทั้ง 3 มื้อ คือ มื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น โดยแต่ละมือควรมีสัดส่วนในการกินที่แตกต่างกัน โดยทางที่ดีควรหนักในมื้อเช้า เบาลงในเมืองกลางวัน และน้อยสุดในมื้อเย็น แต่หลายคนกับทำตรงกันข้ามกัน คือ เบามือเช้า มากขึ้นในมื้อกลางวัน และจัดหนักมื้อเย็น หรือบางคนอาจเลือกงดมื้อเช้าไปเลยก็มี

ซึ่งวิธีแบบนี้จริงๆ แล้วส่งผลร้ายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่กำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต รวมไปถึงวัยทำงาน ที่สำคัญการกินหนักในมื้อเย็น ยังส่งผลให้เราอ้วนขึ้นอีกด้วย

แล้วจะทำอย่างไรจึงจะ ไม่แก่ ไม่อ้วนและอายุยืน คำตอบก็คือ การกินสายกลาง นั่นเอง

กินสายกลางคืออะไร คือ การกินมื้อเช้าและมื้อเที่ยง งดมื้อเย็น หรือกินมื้อเย็นให้น้อยที่สุดนั่นเอง เปรียบตัวเราเป็นรถยนต์ ตื่นเช้ามาต้องเติมน้ำมันก่อน หรือกินมื้อเช้า รถจึงจะวิ่งได้ ถึงเที่ยงน้ำมันยังไม่หมด เติมอีกครั้ง ถึงเย็นก่อนนอนก็ยังไม่หมดพิสูจน์ได้ดังนี้

สมมุติกินไข่ลวก 1 ฟองโตๆ มีไข่แดงหนัก 50 กรัม ในไข่แดงมีคลอเลสเตอรอล 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลอรี่ ฉะนั้น 50 กรัม ให้พลังงาน 450 แคลอรี่ จะต้องออกกำลังกายเพื่อใช้พลังงานนี้ โดยขี่จักรยานตั้งแรงต้านไว้ 1.3 ก. ก. ความเร็วที่ปั่นบันไดจักรยาน 60 รอบต่อนาที ขี่อยู่นาน 60 นาที จะเหนื่อยหอบ เหงื่อไหลท่วมตัว แต่ใช้พลังงานไปเพียง 300 แคลอรี่ ไข่ใบเดียว ยังใช้ไม่หมด

ดังนั้น ถ้า กินมื้อเช้า มื้อเที่ยง จนถึงเย็น พลังงานยังเหลือแน่นอน ไม่จำเป็นต้องไปเติมอีก เพราะเวลานอนร่างกายจะนำพลังงานที่เหลือใช้ไปเก็บในที่ต่างๆ โดยตับเป็นผู้ทำงานนี้ ถ้าพลังงานเหลือมาก การเอาไปเก็บในที่ต่างๆ ก็มาก ทำให้อ้วน และแน่นอนถ้าเก็บไม่หมดโดยเฉพาะพวกไขมันตัวโตๆ จะต้องค้างอยู่ในหลอด เ ลื อ ด ถ้าค้างสะสมมากเท่าใด รูหลอด เ ลื อ ด ก็จะเล็กลงทุกวัน เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้น้อยลง อวัยวะทั้งหลายก็จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้นหรือแก่เร็วขึ้น ถ้าวันไหนอุดตัน เช่นถ้าตันที่สมอง จะกลายเป็นคนพิการอัมพาตครึ่งซีก ถ้าอุดตันที่ไต ต้องล้างไต เปลี่ยนไต ถ้าตันที่ขา อาจต้องตัดขาทิ้ง ถ้าตันที่กล้ามเนื้อหัวใจ ก็จะไม่มีโอกาสได้สั่งลาใคร

การกินมื้อเย็นจึงเป็นมื้อที่เร่งกระบวนการเสื่อมของอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย และร่ายกายยังต้องใช้พลังงานอย่างหนักในการเผาผลาญอาหาร ยิ่งกินมื้อเย็นในปริมาณที่เยอะ ก็ยิ่งเร่งการเสียชีวิตให้เร็วขึ้นไปอีก มื้อเย็นจึงเป็นมื้ออันตราย ที่สุด หรือก็คือการกินมื้อเย็นมาก ยิ่งผ่อนส่งมาก อาจจากไปเร็วกว่ากำหนด ถ้าไม่กินมื้อเย็น ก็จะแก่ช้า เสื่อมช้า อายุยืนการไม่กินอาหารมื้อเย็นเป็นเรื่องที่ต้องเอาชนะใจตัวเองอย่างมาก ถ้าใครทำได้จะตัดทั้งกิเลส สุขภาพดี อายุยืน และมีสมาธิดี ความมุ่งมั่นสูง ได้ประโยชน์ทั้งกายและใจแต่ท่าน ต้องฝึกกระเพาะให้เกิดความเคยชิน

วิธีฝึกไม่กินมื้อเย็นมีด้วยกัน 4 วิธี

1. ค่อยๆลดปริมาณอาหารมื้อเย็น ทีละน้อยๆเช่นลดกินข้าวจาก 2 จาน เหลือ 1 1/2 จาน สัก 3-4 เดือน โดยมีข้อแม้ว่า หลังอาหารเย็นแล้วห้ามกินอาหารใดๆทั้งนั้นยกเว้นน้ำเปล่า พอกระเพาะชินแล้วลดเหลือ 1 จาน ต่อไปครึ่งจาน ต่อไปไม่กินข้าวเลยกินแต่กับ ต่อไปกินผักผลไม้ สุดท้ายงดอาหารเย็น

2. ร่นเวลากินอาหารเย็น เช่นจาก 2 ทุ่มมากิน 1 ทุ่ม ต่อไปเลื่อนเป็น 6 โมงเย็น 5 โมงเย็น 4 โมงเย็น 3 โมงเย็น ฯ

3. กินเม็ดแมงลักแทนมื้อเย็น ใช้เม็ดแมงลัก 2 ช้อนโต๊ะใส่ในถ้วยน้ำแกงหรือน้ำเปล่าคนแล้วดื่มทันที ดื่มน้ำตามอีก 4-5 แก้ว

4. กินมังสะวิรัสมื้อเย็น การกินผักผลไม้ถือว่าเป็นอาหารไม่มีพิษ ร่างกายจะได้พักไม่ต้องทำลายพิษของอาหารเนื้อสัตว์ พิษที่สะสมไว้ก่อนก็จะถูกตับ ไต กำจัดหมดไปเองได้ ร่างกายมีเวลาถึง 18 ช.ม. กำจัดพิษที่ติดมากับมื้อเช้า มื้อเที่ยงได้ทัน ฉะนั้นการไม่กินอาหารเย็นจึงเป็นเวลาที่ตับ ไต จะสามารถกำจัดสารพิษจากอาหารมื้อเช้าและเที่ยงได้หมด ร่างกายจึงบริสุทธิ์ทุกวัน


ขอบคุณที่มา : https://bit.ly/2n8ZsNS
Advertisements

ไม่มีความคิดเห็น