ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า

Advertisements

ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า

สวัสดีค่ะ วันนี้เราได้นำบทความดีๆ เกี่ยวกับการครองเรือนให้ยั่งยืนมาฝาก เพื่อนๆ เคยได้ยินคำนี้มั้ยคะ “ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า” ซึ่งเป็นการหมายถึง ความที่เกิดขึ้นในบ้าน อย่านำไปเล่าให้คนนอกบ้านฟัง ความที่เกิดจากเรื่องนอกบ้าน อย่านำมาเล่าให้คนในบ้านฟัง เพราะเป็นการไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่งหากสามี-ภรรย า ทะเลาะกันทีไร โพสลงเฟส โพสลงบนโลกโซเชียลทุกที ทำแบบนี้ไม่ดีแน่ เอาเรื่องในบ้านมาป่าวประกาศด้วยอารมณ์ชั่ววูบเนี่ย เรื่องราวไม่ดีภายในครอบครัวไม่ควรนำไปเล่าให้คนนอกบ้านฟัง ไฟในอย่านำออก

เรื่องราวไม่ดี คำนินทาว่าร้ ายที่คนภายนอกพูดถึงคนในครอบครัว ก็ไม่ควรนำมาเล่าให้คนภายในครอบครัวฟัง ไฟนอกอย่านำเข้า ยิ่งยุคโซเชี่ยลนี่ ข่าวไปไวกว่าคำพูดปากต่อปากนัก โพสไปทีเดียวเพื่อนเห็นกันหมด อย่าคิดว่าจะตามลบทับ บางคนก็แคปจอเอาไปส่งต่อ คนที่เข้ามาอ่านส่วนใหญ่จะมีแค่ 2 ประเภท คือ “คนที่สะใจ” กับ “คนที่ไม่สนใจ”

เก็บอาการในเวลาที่ควรเก็บ แสดงออกในเวลาที่ควรแสดงออก บางเรื่อง ที่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ในความคิดของเรา แต่มันอาจจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ ในความคิดของเขาก็ได้ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ คุย จึงจะเข้าใจกัน คิดแต่ไม่คุยกัน จึงไม่เข้าใจ หรือ คุยแต่ไม่คิด ก็เข้าใจแต่เป็นความเข้าใจคนละอย่าง เข้าใจผิดกันไปอีก บางเรื่อง.. ที่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ในความคิดของเรา แต่มันอาจจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ ในความคิดของเขาก็ได้ ค่อยๆคิด ค่อยๆคุย จึงจะเข้าใจกัน คิดแต่ไม่คุยกัน จึงไม่เข้าใจ หรือ คุยแต่ไม่คิด ก็เข้าใจ แต่เป็นความเข้าใจคนละอย่าง เข้าใจผิดกันไปอีก

การแสดงออก ไม่ว่าจะด้วยสีหน้า อากัปกิริยาท่าทาง คำพูดคำจา มีความสำคัญอย่างมาก จะเข้าใจกัน หรือ เข้าใจผิด ก็ขึ้นอยู่กับตรงส่วนนี้ หลายคน ฉลาดในการคิด แต่กลับฉลาดน้อยไปนิดในการแสดงออก กว่าจะรู้ กว่าจะเข้าใจ บางทีก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวกันบ้าง ต้องเรียนรู้กันอีกมาก ขอแค่อย่าเพิ่งท้อกันไปเสียก่อน กว่าจะรู้ กว่าจะเข้าใจ บางทีก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวกันบ้าง ต้องเรียนรู้กันอีกมาก ขอแค่อย่าเพิ่งท้อกันไปเสียก่อน

หลายเรื่อง ก็ควรจะปล่อยให้เป็นเรื่องของภายใน เพราะการใส่ฟืนสุมไฟให้แรงร้อนจนนอนไม่หลับยากที่จะดับ จนต้องปล่อยให้ไฟนั้น พัดกระพรือออกไปภายนอก นอกจาก จะดับไฟกองเดิมไม่ได้ มันยังกลายเป็นการเพิ่มไฟกองใหม่ขึ้นมา และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าสรวลเสเฮฮานักเลยสำหรับชีวิตคู่ แต่หากเมื่อคู่ชีวิตศีลไม่เสมอกัน ปัญญาที่จะคุยกันก็ไม่เท่า คือ คุยกันไม่รู้เรื่อง พาลทะเลาะตลอด ทางแก้คือ รักษาศีล รักษาใจ ของเราเองให้ดี ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวเขาก็ไปเอง แต่ถ้าใช่เดี๋ยวเขาก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง เราก็ปรับ เขาก็เปลี่ยน ต่างคนต่างปรับตัวเข้าหากัน แบบนี้ถึงจะเรียกว่า ศีลเสมอกัน

หากเลือกคนที่ศีลไม่เสมอเราแม้เรา จะພยายาມเปลี่ยนแค่ไหน หากอีกฝ่ายไม่คิดไม่เป็น ไม่ปรับเปลี่ยนอะไร ก็ไปกันไม่ได้ เลือกใครมาเป็นคู่ จึงไม่ได้ดูแค่ภายนอก ให้ดูนิสัยใจคอด้วย ชีวิตคู่ คือ อภัย เข้าใจ คุยกัน และพร้อมปรับแก้ไข ไม่ใช่ພยายาມอยู่ฝ่ายเดียว นั่นเขาไม่เรียกว่า ชีวิตคู่ หากทำเช่นนั้นอยู่ฝ่ายเดียวให้เรียก ชีวิตเดียว ของคนๆ เดียว

“คนหนึ่งคอยสุมไฟ อีกคนคอยตามดับ แบบนี้ก็ไปกันไม่รอด”


ที่มา เห็นทุกข์เห็นธรรม
Advertisements

ไม่มีความคิดเห็น