ประโยชน์ของเปลือกส้มโอ ใช้ทำยาหอม ต้มน้ำอาบแก้คัน แปรรูปทำขนมก็อร่อยสุดๆ

Advertisements

ประโยชน์ของเปลือกส้มโอ ใช้ทำยาหอม ต้มน้ำอาบแก้คัน แปรรูปทำขนมก็อร่อยสุดๆ

ส้มโอ (Pomelo) ผลไม้ที่มีต้นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus maxima (Burm.) Merr. จัดอยู่ในวงศ์ส้ม (RUTACEAE)

ส้มโอ เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์หลากหลายและยังมีสรรพคุณทางยาในการรักษาโรคต่าง ๆ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระในปริมาณมาก และยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆที่จำเป็นต่อร่างกายอีกหลายชนิด

โดยส่วนที่จะนำมาใช้ประโยชน์ก็มีหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นผล เปลือก ใบ และเมล็ด ก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเปลือกและผล ซึ่งเป็นส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์มากที่สุด โดยเปลือกผลมีรสขมเฝื่อน ปร่า หอมร้อน


ตำราแพทย์แผนจีนนิยมใช้เปลือกส้มโอมาเป็นยาแก้ธาตุไม่ปกติ ช่วยแก้อาการไอ ผสมในยาหอมกินแล้วทำให้สดชื่น

ส่วนตำราแพทย์แผนไทย ผิวส้มโอ จัดอยู่ใน “เปลือกส้ม 8 ประการ” ประกอบด้วย ผิวส้มโอ ผิวส้มเขียวหวาน ผิวส้มจีน ผิวส้มซ่า ผิวส้มตรังกานู ผิวมะงั่ว ผิวมะนาว หรือผิวส้มโอมือ และผิวมะกรูด มีสรรพคุณแก้ลม (ระบบไหลเวียนโลหิต) ช่วยขับลมในลำไส้และกระเพาะอาหาร แก้อาการแน่นหน้าอก แก้เสมหะ และนิยมใช้ปรุงเป็นยาหอม ซึ่งมีส่วนช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืดตาลาย ใจสั่น คลื่นไส้อาเจียน



โดยหากนำเอาเปลือกของส้มโอ มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วต้มน้ำอาบ จะช่วยแก้อาการคันตามผิวหนัง และโรคลมพิษที่ผิวหนังได้ดี และหากใครเป็นฝี ก็ให้นำเปลือกส้มโอมาตำ แล้วนำมาพอกบริเวณที่เป็นฝีเพื่อรักษา

นอกจากการเปลือกส้มโอไปใช้ทางยาแล้วนั้น เปลือกนอกสีขาวของส้มโอ ก็ยังสามารถนำไปแปรรูปทำเป็นส้มโอสามรส หรือ ส้มโอแช่อิ่มได้ ทั้งนี้ หากนำเอาเปลือกส้มโอไปวางไว้ในตู้เย็น ในรถ หรือในตู้เสื้อผ้า ก็จะสามารถช่วยดับกลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์ออกไปได้




Advertisements

ไม่มีความคิดเห็น