กว่า 2500 กว่าปีเเล้ว ยังไม่มีนักวิทย์ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า ผิดแม้แต่ข้อเดียว
Advertisements
กว่า 2500 กว่าปีเเล้ว ยังไม่มีนักวิทย์ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า ผิดแม้แต่ข้อเดียว
เป็นอีกหนึ่งบทความที่ให้สาระประโยชน์ดีๆ เป็นอย่างมาก รู้หรือไม่ว่า กว่า ๒๕๐๐ ปีมาแล้ว แต่ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์ที่ไหนที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าผิดแม้แต่ข้อเดียว ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ มีข้อไหนที่ผิด?
นี่คือ ความล้ำค่าของคำสอนของพระพุทธเจ้า
ปัญญาของพระพุทธเจ้า
“อาตมาเห็นว่าเรื่อง “ปัญญา” นี้ เราไม่จำเป็นต้องไปเอาของฝรั่ง ซึ่งก็มีดีบ้าง เสียบ้าง แต่จะบอกว่า ระบบต่างๆ ปรัชญาต่างๆ ทั้งหมดของตะวันตก
ขอให้จำไว้ให้ดีว่า เป็นปรัชญาเป็นแนวความคิดของ “ปุถุชน” ไม่ใช่ปัญญาที่เกิดขึ้นกับ“พระพุทธเจ้า” คือ “ผู้ที่รู้โลกและชีวิตตามความเป็นจริง”
จะเห็นว่า..ระบบความคิดที่ถือว่าเฉียบแหลมที่สุดของฝรั่ง อย่างเช่นของ คาร์ลมาร์ค ( Karl Marx ) ของ ฟรอยด์ ( Sigmund Freud ) เป็นต้น ไม่กี่สิบปีก็ทิ้ง
ทั้งหมด แต่ของพระพุทธเจ้าเกือบทั้งหมด ๒๕๐๐ กว่าปี ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์ที่ไหนที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าผิดแม้แต่ข้อเดียว
๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ มีข้อไหนที่ผิด? นี่คือ ความล้ำค่าของคำสอนของพระพุทธเจ้า”
สองพันห้าร้อยปีที่ผ่านมาแล้ว ก็ยังไม่เคยมีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากความจริงแม้แต่ข้อเดียว ถ้าเราเทียบกับ
นักปราชญ์คนอื่น หรือศาสดาคนอื่น จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ในสมัยโบราณนั้น นักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลกตะวันตกคงจะเป็นอริสโตเติ้ล
ที่จริงหลักปรัชญาของอริสโตเติ้ลในระดับศีลธรรมหรือจริยธรรมก็น่าศึกษา เพราะมีบางสิ่งบางอย่าง หลายสิ่งหลายอย่างที่คล้ายกับคำสอนของพระพุทธเจ้า
แต่ถ้าเราอ่านปรัชญาของอริสโตเติ้ลทั้งหมด ก็คงจะเกิดความรู้สึกว่า หลายอย่างที่ว่าไม่ใช่ หรือว่ามีหลายอย่างที่คนปัจจุบันเชื่อไม่ได้
ยกตัวอย่าง ในการเขียนเรื่องหลักการเมือง ปรัชญาการเมือง อริสโตเติ้ลบอกว่า คนที่เกิดในโลกนี้มีสองอย่าง หรือว่าสองประเภท ประเภทหนึ่งคือก็เป็นประเภท
เจ้านาย เกิดแล้วพร้อมที่เป็นเจ้านาย อีกประเภทหนึ่งก็เป็นพวกทาส คือมีธรรมชาติอยู่แล้วว่าเกิดแล้วต้องเป็นทาส
ดังนั้น สังคมของเรามีทาสไม่ใช่สิ่งผิดเลย มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะพวกนี้เกิดขึ้นเพื่อเป็นทาสของเจ้านายทั้งหลาย
นี่คือความคิดของนักปราชญ์ที่เก่งที่สุดของโลกตะวันตก
อีกคนหนึ่ง เวลาต่อมาหลายร้อยปี คือ เดคาร์ต เดคาร์ต ซึ่งมีผลต่อสังคมตะวันตกกันมาก เดคาร์ต ถือว่า สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายไม่มีเวทนาไม่มีความรู้สึก
ถ้าทรมานสัตว์ สัตว์ร้องไม่มีความหมาย ถ้าเราถือว่าสัตว์นี่เจ็บปวดแล้ว นั่นเป็นแค่อุปาทานของเราเท่านั้นเอง เพราะมีแต่มนุษย์เท่านั้นที่มีเวทนา
นี่ก็ตัวอย่างของนักปราชญ์ตะวันตกแค่สองคน ตัวอย่างมีมากกว่านี้ แต่ก็เปรียบเทียบกับคำสอนของพระพุทธเจ้า ในความรู้สึกของอาตมา ไม่มีที่ไหนที่เราจะ
บอกได้ว่า เออ คำสอนนี้ล้าสมัยแล้ว คงจะเป็นความคิดของคนสมัยนั้นในประเทศอินเดีย แต่คนสมัยนี้รับไม่ได้ แต่บางคนก็ยังถืออย่างนั้นอยู่เหมือนกัน ถือว่า
คำสอนพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับเรื่องการเวียน ว่าย เกิด เป็นเรื่องความเชื่อถือของคนในสมัยนั้น
ที่มา...https://www.khonroiet.com/p/11135
Advertisements
Post a Comment