ไม่ต้องไปต้องการชนะคน 4 ประเภทนี้ เปลืองเวลาชีวิตของเรา

Advertisements

ไม่ต้องไปต้องการชนะคน 4 ประเภทนี้ เปลืองเวลาชีวิตของเรา

โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ไม่โกรธดีกว่าจะได้ไม่บ้าไม่โง่

โกรธเขาเท่ากับจุดไฟเผ าตัวเอง

อาการที่โกรธเลยทำให้คนที่มีเกียรติทำอะไรที่ถูก รั ง เ กี ย จ

ถูกติเตียนได้หมด เราต้องรู้จักควบคุม รู้จักคิด

ถ้าเราใช้อะไรไม่เป็นมันก็กลายเป็นเรื่อง

(คำสอนจาก พระพยอม เมื่อ 9 กันย ายน 2556)

มาในบทความนี้จะเอ่ยถึงบุคคล 4 ประเภทที่

อย่ าพย าย า มเอ าชนะคนจำพวกนี้

เพราะว่าคุณจะ “ไม่มีวันชนะ” มาดูกันเลยว่า

คนทั้ง 4 ประเภทนี้ เป็นคนแบบไหนกันบ้าง

1 โยนความผิ ด คนธรรมดาถ้าผิ ด

ก็จะรับได้และใช้มันเป็นบทเรียนแต่ถ้าผิ ด

แล้วโยนความผิ ดให้คนอื่น เรียกว่า ‘โง่’

(แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าตัวเองผิ ด)

2 ถูกเสมอ อันนี้สืบมากจากข้างบน

คือยังคิดว่าตัวเองถูกตลอด สังเกตุได้ว่าเวลามีข้อขัดแย้ง

จะเถียงเอ าเป็นเอ า ต า ย ไม่มีฟังชาวบ้าน

ใช้ตรรกะวิบัติ เหตุผลวิบัติไปเรื่อยๆ

3 ก้าวร้าว กลบเกลื่อน มีวิจัยมาว่าพวกฉลาดน้อย

จะก้าวร้าวมากกว่าคือ เมื่อคุมสถานกาณ์ไม่อยู่

จนด้วยเหตุผลอะไรไม่เป็นดังที่คิด

จะมีอาการโมโหก้าวร้าวกลบเกลื่อนหวังสยบให้จบข่าว

4 เหนือตลอด ไม่ใช่เหนือ-ใต้

แต่เป็นการมองว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นเสี ยดสี

ติติงคนอื่นให้ตัวเองดูดี

ตัดสินโดยมีความลำเอียงเกาะติดตลอดมีวิจัยว่าพวกไอคิวต่ำ

จะรับอะไรได้ย าก เข้าใจอะไรย ากไม่เหมือนพวกฉลาด

ที่พร้อมจะเข้าใจ เห็นใจ ทำอะไร

ให้ใครช่วยเหลือใครก็ไม่หวังผล

แต่พวกคนโง่จะไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้

อัตตามันสูงเมื่อให้แปลว่าต้องได้รับตอบแทน

ก็คนอย่างฉันอุตส่าห์ให้คนอย่างเธอ ประมาณนั้น

เมื่อเจอแบบนี้ วิธีที่น่าจะดี คือ อย่ า “ก ดปุ่มโง่”

คือ ถ้ารู้ว่าโง่ ก็อย่ าไปก ดปุ่มให้โง่ซ้ำๆ

เลี่ยงการก ดปุ่มเปิดระบบป้องกันตัวและอีโก้โง่ๆ

มันไม่มีประโยชน์อะไรกับการเถียงกับคนโง่

ถ้าต้องคุยก็เอ าเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวให้ตรงประเด็นหรือ

หยุดได้ก็หยุดดีกว่า เล็งจังหวะที่ควรจะหยุด

อย่ าพย าย า มเอ าชนะ เพราะจะไม่มีวันชนะคนโง่

และยิ่งบ้าด้วยนี่ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกร รมจะใช้เหตุผล

หลักฐานอะไรมาให้ดูก็คงไม่สนเผลอๆมีท้าทายกลับมา

เราจะเสี ยอารมณ์เองด้วยเอ าเป็นว่า

ขอไม่เจอดีกว่านะ มันเหนื่อย

หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ

เรามี 5 เทคนิคเด็ดแนะนำให้ลองทำแบบนี้

1 เราเป็นพวกเดียวกันนะ พย าย ามเข้าใจเหตุผล

ที่เขาต้องดื้อต้องรั้นและเปิดโอกาสให้เขาได้

พูดความจริงที่อัด อั้นว่ากลัวอะไรต้องการอะไรกันแน่

ปิดบังอะไรไว้ ฯลฯ แล้วจึงค่อย ๆอธิบาย

เพื่อทำความเข้าใจกับเขา

ไปทีละอย่ างเพื่อให้เขารู้สึกว่าไม่ได้โดดเดี่ยว

หรือถูกกีดกันไปเป็นคนอีกประเภทที่ไม่มีใครอย ากคบหา

2 อย่ าบังคับ (เด็ดขา ด) อย่ าพย าย ามบอกว่า

ความคิดของคุณดีกว่าแล้วบังคับให้คนหัวรั้น

ทำตามสิ่งที่คุณต้องการโดยใช้คำว่า “ต้องทำอย่ างนี้”

และ “ห้ามทำอย่ างนั้น”แต่ควรพูดหว่านล้อม

เพื่อโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนความคิด

ไปในทิศทางเดียวกับคุณทีละน้อย ๆ

ยิ่งเรื่องที่นำมาพูดเป็นเรื่องที่ถูกจริตของเขา ด้วยยิ่งดี

สุดท้ายวิธีนี้จะทำให้เขาค่อย ๆรู้สึกเองว่า

สิ่งที่คุณต้องการให้เขาทำนั้นมันช่าง

“ตรงกับความคิด ตรงกับใจของเขา

เหมือนกัน”จึงไม่ย ากเลยที่จะทำ

3 รักษาความสำคัญของเขาเอ าไว้

แม้บางทีความคิดเขาอาจไม่ถูกใจคุณหรือไม่เป็นที่ยอมรับ

ของที่ประชุมแต่มันก็อาจไม่ได้แย่ไปทั้งหมดก็ได้

คุณควรให้ความสนใจและนำความคิดเห็น

ของเขาไปพิจารณาต่อรวมทั้งให้เหตุผลว่า

มุมมองของทั้งคุณและเขาถูกเหมือน ๆ กัน

ทั้งนี้เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่า เขายังคงมีบทบาท

ความสำคัญในกลุ่มหรือองค์กร

และจำเป็นอย่ างยิ่งที่เขาต้องมีส่วนรับผิ ดชอบ

ในความคิดครั้งนั้นด้วย เป็นการผูกมัดด้วยหน้าที่ไปในตัวไงล่ะ

4 สร้างความมั่นใจให้ดีกว่า คนหัวรั้นย่อมไม่ต้องการให้ใครมองว่า

“มีคนเปลี่ยนแปลงเขาได้นอกจากตัวเขาเอง”

ดังนั้นคุณจึงมีหน้าที่ให้ข้อม ูลใหม่ๆแนะนำแหล่งข้อม ูล

เพิ่มเติมเพื่อให้เขานำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเมื่อเขามั่นใจว่า

รู้จริง เขาก็จะกล้าเปลี่ยนแปลงความคิดของตัวเอง

เพราะคนเหล่ านี้ไม่ต้องการดูเป็นคนไร้ความสามา รถในสายตาใคร

5 โน้มน้าวใจซึ่งกันและกัน นักจิตวิทย าพบว่า

ถ้ามีใครสักคนสามา รถโน้มน้าวใจคุณได้สำเร็จ

ภายหลังหากคุณเป็นฝ่ายขอร้องเขาบ้าง

ก็มีแนวโน้มสูงที่คนคนนั้นจะเปลี่ยนทัศนคติตามคำขอของคุณ

เป็นการตอบแทนในลักษณะเดียวกัน

ถ้าคุณเคยปฏิเสธเขามาก่อนก็มีแนวโน้มสูง

ว่าเขาจะปฏิเสธคุณกลับมาเช่นกัน


ขอขอบคุณแหล่งที่มา eatrices
Advertisements

ไม่มีความคิดเห็น