10 เหตุผลที่ทำให้เพื่อนสมัยมัธยมดีที่สุด คบกันได้นานกว่ารุ่นอื่นๆ

Advertisements

10 เหตุผลที่ทำให้เพื่อนสมัยมัธยมดีที่สุด คบกันได้นานกว่ารุ่นอื่นๆ

1 : กิน นอน เที่ยว ด้วยกัน วัยมัธยม เป็นวัยที่ติดกันยังกับตังเม ไปไหนไปกันเป็นฝูง เกาะกลุ่มกันแน่น กินก็กินด้วยกัน ทั้งๆที่ไม่ค่อยจะมีอะไรให้กิน

นอนก็นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยกัน หลับได้เพราะเพลีย ที่ไปทำทะโมนมาทั้งวัน ความผูกพันมันจึงถูกหล่อหลอมจนเป็นเนื้อเดียวกัน วันละนิด ละหน่อย จนแยกกันไม่ออก

2 : รู้จักกันถึงพ่อ ถึงแม่ ถึงพี่น้อง บ้านช่อง รู้ใส้ รู้พุงพุงกันหมด สนิทกับแบบไม่มีอะไรปิดกั้น สนิทกันขนาดเรียกชื่อเพื่อนเป็นชื่อพ่อมัน

จนกระทั่งเรียนจบก็มี บางทีเรียกชื่อมัน(ซึ่งเป็นชื่อพ่อเพื่อน) พ่อมันขานเราก็มี เพราะพ่อมันนึกว่าเรียกเขา ที่ดีคือ เพื่อนมันไม่เคยโกรธเลย

3 : ขอเงินกันกินขนม แทนการขอยืม ด้วยที่สมัยนั้น ทุกคนได้เงินมาโรงเรียนไม่มากมายอะไร แค่หลักสิบบาทเท่านั้น จะต่างกันไปตามฐานะของแต่ละบ้านบ้าง

แต่ก็ไม่กี่บาทความอดอย ากปากแห้ง จึงมาเยือนชนิดไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ การขอเงินเพื่อนกินขนม หรืออเมริกันเเ ช ร์ หรือให้เพื่อนเลี้ยง

จึงเป็นเรื่องปกติการ “ขอยืม” เงินเพื่อนสมัยนั้นไม่ค่อยมีให้เห็น มีแต่”ขอเลย” หรือ “ขอลืม”เท่านั้น

4 : เรามาพบเจอกันในแต่ละครั้งหลังจากจบการศึกษา เราได้เห็นวิวัฒนาการ และการเติบโต ของเพื่อนในกลุ่มแต่ละคน พร้อมกับได้รื้อฟื้นความหลัง ความทรงจำเก่า

ที่เราร่วมทำกันมานัยหนึ่งก็เหมือนเป็นการลดอัตตาตัวตนของตนเองไปในเวลาเดียวกันว่า“ไม่ว่าวันนี้..ทุกคนจะมาไกลแค่ไหน

แต่เราก็มีจุดเริ่มต้นที่ไม่ต่างกันคือ ความเป็นเพื่อนที่ไม่มีกีดขวางระหว่าง”พวกเรา”ไปได้เท่านั้นเอง”

5 : ทำอะไรโ ง่ๆ เหมือนกัน วัยมัธยมเป็นวัยรอยต่อของความเป็นเด็ก กับวัยรุ่น ที่กำลังจะโตเป็นผู้ใหญ่ จึงมีเรื่องโ ง่ๆให้ทำเยอะมาก

ทุกคนในกลุ่มที่คบกันจะมีเรื่องโ ง่ๆให้ทำแตกต่างกันออกไป จนไม่มีใครดูฉลาดกว่ากันในสายตาของผู้ใหญ่

เพราะคิดทำการแต่ละเรื่อง มีแต่เรื่องโ ง่ๆ ทั้งนั้น มันเลยคบกันได้มาย าวนาน เพราะไม่ต้องมีใครอายใครนั่นเอง

6 : โดนครูดุ ด่า ทำโทษมาด้วยกัน จนไม่เหลือย างอายอะไรให้อายอีกแล้ว ใหม่ๆอาจจะอายเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงเป้าหมายตา

ที่อยู่ในห้องเดียวกัน พอนานเข้า ทั้งเขาและเราก็ชินกันไปเองจนไม่มีใครอายใคร

7 : ไม่มีเปลือก มีแต่ตัวตนจริงๆ ใครเป็นใคร..อย่ างไร..เห็นกันหมดใครเรียนเก่ง ใครอ่อน ใครโ ง่ ฉลาด ขยัน ขี้เ กี ย จ

แม้กระทั่งพ่อแม่เป็นใคร มีสตางค์หรือไม่มี รู้กันหมด ไม่ต้องมาทำฟอร์มใส่กัน

8 : หัดจีบแฟนพร้อมๆ กัน ด้วยลีลาที่นึกถึงทุกวันนี้ยังเกิดคำถามกับตัวเองว่า “กูทำไปได้ยังไง” แต่ก็เป็นการจีบแบบใสๆซื่อๆ ทั้งๆที่รู้ว่า

จีบไปก็เท่านั้น “เหมือนหมาเห็นปลากระป๋อง”ยังไงยังงั้น เล่ากันเมื่อไหร่ ก็ฮากันเมื่อนั้น บางทีนึกดีใจด้วยซ้ำ ที่ไม่จีบเป็นจริงเป็นจังจนขอแต่งงาน

เพราะมาเจออีกที หลังเกษียณ แก่ไม่มีที่ติจริงๆ (จริงๆ ก็แก่ทั้งคู่นั่นแหละ ระหว่างเรากับเขา)

9 : ไม่มีผลประโยชน์ เพื่อนสมัยมัธยม ไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง คบกันได้เพราะ “มึงกับกู” เหมือนๆกัน ไม่ใช่เพราะจะพึ่งพาอะไรกันมากมายอย่ างดีก็แค่

“ขอกูลอกการบ้านมึงหน่อย” พอเอาไปส่งครู ตอบผิดด้วยกันทั้งคู่เลยก็มีบ่อยๆ เพราะไปลอกของมัน ดีมั๊ยดี ทำเองยังอาจจะถูกบ้างบางข้อ

10 : มีอดีตและวีรก ร ร มร่วมกันมาย าวนาน เพื่อนที่คบกันมาจนสนิท แนบแน่น จะมีประวัติศาสต์หรือวีรก ร ร มที่ร่วมทำกันมามากมายหลายรสชาติ

จนเล่ากี่ครั้งก็ไม่มีวันหมด ทุกครั้งที่กลับไปเยี่ยมเยียนสถาบันที่เคยเล่าเรียนกันมา ก็จะจดจำภาพได้ทุกภาพ ว่าอะไรอยู่ตรงไหน มะม่วงต้นไหนที่ใครเคยปีน

ใครโดนครูทำโทษตรงไหน อย่ างไร ฯลฯ จำได้หมดล้วนเป็นวีรก ร ร มแบบโ ง่ๆไม่แตกต่างกันเท่าไหร่


ที่มา...e-yhangwa.com
Advertisements

ไม่มีความคิดเห็น