เผยอาหาร 10 อย่าง ที่ควรกินเป็น “มื้อเช้า” ให้คุณค่าทางอาหาร มีประโยชน์สุดยอด
Advertisements
เผยอาหาร 10 อย่าง ที่ควรกินเป็น “มื้อเช้า” ให้คุณค่าทางอาหาร มีประโยชน์สุดยอด
หากเพื่อน ๆ กำลังมองหาอาหารที่ช่วยเพิมพลังในทุก ๆ เช้าของทุกวัน เราแนะนำอาหาร 10 อย่างนี้ ที่ควรกินเป็น “มื้อเช้า” ประโยชน์ดีสุดยอด
1. น้ำมะนาว
สำหรับคนที่ตื่นมาแล้วเพลียหนักมาก ดื่มน้ำเปล่าเพียว อาจไม่พอค่ะ ต้องเป็นน้ำมะนาวอุ่น สักแก้ว หรือจะบีบมะนาวลงไปในน้ำเปล่าปกติสักครึ่งซีกก็ได้ กลิ่นซิตรัสของมะนาวจะช่วยปลุกความสดชื่นให้สมอง ส่วนน้ำก็จะช่วยขับไล่ความอ่อนเพลียให้หมดไป
2. กล้วย
กล้วยเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตเซิงซ้อน ที่ร่ า งกายสามารถเปลี่ยนเป็นกลูโคสเพื่อให้พลังงานแก่เซลล์และอวัยวะต่าง โดยเฉพาะเซลล์สมองได้ทันที อีกทั้งในกล้วย 1 ผลยังเปี่ยมไปด้วยวิตามินบี 2 บี 3 โพแทสเซียม และแมกนีเซียม
ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้าได้อีกต่างหาก ดังนั้นหากมีเวลาจำกัด ต้องรีบเร่ง พกกล้วยน้ำว้าสัก 1-2 ผลไปกินเป็นมื้อเช้าได้เลยค่ะ
3. ข้าวกล้อง
ข้าวกล้องมีกาบ้า สารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง อีกทั้งข้าวกล้องยังมีวิตามินบีสูงมาก จึงช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมองให้ตื่นตัวได้อีกทาง
4. องุ่น
มีการศึกษาพบว่า ไม่ว่าจะกินองุ่นเขียว องุ่นดำ หรือองุ่นแดง ก็จะได้รับสารต้านอนุมูลอิสsะจากผลไม้ที่ชื่อว่าองุ่นในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเจ้าสารต้านอนุมูลอิสsะนี่แหละที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของสมอง
ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ที่มีสาเหตุมาจากความเสื่оมของเซลล์ ในขณะเดียวกันก็เป็นพลังงานสำคัญของเซลล์สมองด้วย ดังนั้นหากเ บื่ ออาหารเช้าเดิม ลองหันมากินองุ่นกันบ้างก็ได้นะ
5. แอปเปิ้ล
ผลไม้อย่างแอปเปิ้ลมีน้ำและน้ำตาลที่ร่างกายสามารถดึงไปใช้ได้ทันที ดังนั้นใครที่รู้สึกเพลีย หลังตื่นนอนแอปเปิลก็จะช่วยเติมความสดชื่นให้ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว แต่ประโยชน์ของแอปเปิ้ลยังไม่จบ นั้นค่ะ เพราะการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Cornell
ยังพบว่า แอปเปิลมีสารพฤกษเคมีที่ชื่อว่า เควอร์ซิทิน (quercetin) ที่มีคุณสมบัติต้าuอนุมูลอิสsะ ป้องกันเซลล์สมอง และเซลล์ประสาทถูกทำลาย จึงช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่เสื่оมสภาพก่อนวัยอันควร
6. บลูเบอร์รี
ผลไม้ชนิดนี้มีสารต้าuอนุมูลอิสsะอยู่มากเช่นกัน และยังมีการศึกษาที่พบว่า คนที่รับประทานบลูเบอร์รีเป็นประจำจะมีความจำและทักษะการเคลื่อนไหวที่ดี อันเนื่องมาจากสารแทนนินในบลูเบอร์รีมีส่วนช่วยเชื่อมการทำงานของเซลล์ต่าง ในสมอง จากที่ตื่นมาด้วยความมึนงง
พอได้กินบลูเบอร์รีก็จะช่วยให้เชื่อมต่อข้อมูลได้ดีขึ้น นอกจากนี้บลูเบอร์รียังมีสารพฤกษเคมี (phytochemicals) ที่เชื่อกันว่าเป็นสารที่ช่วยเติมเต็มความสามารถของสมอง ในด้านการเรียนรู้ ความคิด และความจำ
7. ถั่วชนิดต่าง
ถั่วเป็นแหล่งของสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่ า งกาย ทั้งโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ดังนั้นการกินถั่วเป็นมื้อเช้าก็ช่วยให้มีพลังกายมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญกรดไขมันชนิดดีและธาตุสังกะสีจากถั่วยังจะเข้าไปเป็นพลังงานให้เซลล์สมอง พร้อมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นด้วยนะคะ ซึ่งหากใครไม่สะดวกจะกินถั่วเปล่า ลองกินถั่วกับโยเกิร์ต หรือจะเป็นเมนูขนมปังโฮลวีททาเนยถั่วแบบนี้ก็ได้
8. ข้าวโอ๊ต โฮลเกรน โฮลวีท
ข้าวและธัญพืชไม่ขัดสีกลุ่มนี้ก็มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนให้ร่างกายเปลี่ยนแป้งเป็นกลูโคสด้วยเหมือนกัน แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือนอกจากจะเป็นคาร์บเชิงซ้อนให้ร่างกายรู้สึกอิ่มได้นานแล้ว
ธัญพืชเหล่านี้ยังอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุที่เป็นวัตถุดิบหลักของระบบประสาทและสมอง ช่วยให้อวัยวะและเซลล์ในร่างกายตื่นตัว ส่วนคาร์โบไฮเดรตที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลก็ช่วยให้ร่างกายสดชื่นเพิ่มขึ้นด้วย
9. ไข่
ไข่เป็นอาหารที่กินมือไหนก็อร่อย แต่หากกินไข่เป็นอาหารเช้าก็จะได้ประโยชน์ในแง่ของการบำรุงสมองที่อึน ให้ตื่นตัวขึ้นด้วย เนื่องจากไข่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 และโปรตีน นอกจากนี้ไข่ไก่ 1 ฟอง ยังมีโคลีน (Choline) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ เยื่อหุ้มสมอง อยู่มากถึง 20% ส่งผลให้สมองและระบบประสาทแข็งแรง พร้อมทำกิจกssมต่าง ๆ อย่างตื่นตัว
โดยยืนยันให้มั่นใจอีกทีด้วยผลการศึกษาในวารสาร International Journal of Obesity ที่พบว่า คนกินไข่ไก่เป็นมื้อเช้าจะรู้สึกตื่นตัวและพร้อมทำกิจกssมต่าง ๆ มากกว่าคนที่กินอาหารชนิดอื่นที่ให้พลังงานเท่ากัน อย่างเช่น ขนมปังเบเกิล เป็นต้น
10. น้ำเปล่า
อย่างแรกเลยที่จะต้องตกถึงท้องทุกคนก่อนนั่นก็คือน้ำเปล่านี่เอง เพราะในขณะที่ท้องเราว่าง ขณะที่ร่ า งกายของเราหลับ 6-8 ชั่ วโมง เราจะไม่ได้ดื่มน้ำหรือกินอะไรเลย ดังนั้นเพื่อเป็นการเติมน้ำให้เซลล์และอวัยวะต่างในร่างกาย น้ำเปล่าควรเป็นสิ่งแรกสิ่งเดียวที่ควรเติมเต็มเป็นอันดับแรก เชื่อเถอะว่าหลังจากที่ดื่มเข้าไป 1 แก้ว จะรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเป๋าขึ้นมาทันที
แหล่งที่มา: kiddidee
เรียบเรียงโดย baansuann.com
Advertisements
Post a Comment