วิธีทำกล้วยปิ้งราดน้ำกะทิมะพร้าวอ่อน (สูตรโบราณ) หอมหวานมัน มีประโยชน์ต่อร่างกาย
Advertisements
วิธีทำกล้วยปิ้งราดน้ำกะทิมะพร้าวอ่อน (สูตรโบราณ) หอมหวานมัน มีประโยชน์ต่อร่างกาย
วันนี้แอดมินจะมาชวนเพื่อนๆ ทำของกินอร่อยๆ และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ที่สำคัญสามารถนำไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ได้ด้วยนะคะ เมนูที่จะมาแนะนำวันนี้ได้แก่ “กล้วยปิ้งราดน้ำกะทิมะพร้าวอ่อน” นั่นเองจ้า
กล้วยปิ้ง หรือ จะเรียกว่ากล้วยทับก็ได้ เป็นเมนูขนมไทยที่คุ้นปากมาตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าทานเปล่าๆ คงไม่ฟินเท่าไร่นัก หลังๆมาจึงมีการจับมาราดด้วยน้ำจิ้มหวานๆ หอมๆ ทานเพลินกว่าเดิมหลายเท่านัก ว่าแล้วเราก็ไปเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบให้พร้อม แล้วเราลงมือทำกันเลยค่ะ
ส่วนประกอบวัตถุดิบ
1. น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
2. น้ำตาลทรายขาว 55 กรัม
3. น้ำตาลทรายแดง 55 กรัม
4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
5. หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
6. เนื้อมะพร้าวอ่อน 1/2 ถ้วยตวง
7. ใบเตย 2 ใบ
8. กล้วยน้ำว้าสุกพอห่าม 15-18 ลูก
ขั้นตอนทำน้ำจิ้ม
1. ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทรายขาว และน้ำตาลทรายแดง ตามด้วยเกลือ ใส่หัวกะทิลงไป 1/2 ถ้วยตวง นำไปตั้งบนเตาใช้ไฟอ่อนเคี่ยวต่อประมาณ 20 นาที
2. ใส่หัวกะทิที่เหลือลงไปคนให้เข้ากัน ตามด้วยใบเตย เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนประมาณ 10 นาที หรือจนน้ำกะทิเหนียวข้น
3. ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปคนให้เข้ากันรอให้เดือดอีกรอบ ปิดไฟ พักทิ้งไว้
ขั้นตอนการปิ้งกล้วย
1. ปอกกล้วย ล้างด้วยน้ำเกลือ หั่นหนาประมาณ 1 นิ้ว หรือใช้ทั้งลูกก็ได้ แล้วแต่ความชอบ
2. เสียบกล้วยใส่ไม้ เตรียมนำไปปิ้งหรืออบ
3. ปิ้งกล้วยบนเตาใช้ไฟอ่อนประมาณ 10-15 นาที กลับไปกลับมา หรือจนกล้วยมีสีน้ำตาลอ่อนทั้งสองด้าน
4. นำใส่ถุงพลาสติกชนิดถุงร้อน แล้วบีบ หรือทับ ให้แบนตามความชอบ
5. จัดกล้วยทับใส่จาน ราดด้วยน้ำจิ้ม หรือจะแช่ ให้ซึมเข้าเนื้อ แล้วแต่ความชอบ
ทำกินเองที่บ้านก็ง่าย หน้าตาดูดี สีสันชวนน้ลายไหลจริงๆค่ะ
เห็นแล้วหิวเลย อย่าลืมไปลองทำทานกันนะคะเพื่อนๆ
ต่อยอดเอาไปทำขาย สร้างรายได้สร้างอาชีพ ก็นับว่าเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจจ้า กับเมนูเด็ด “กล้วยปิ้งราดน้ำจิ้มกะทิมะพร้าวอ่อน”
กล้วยมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย กล้วยเป็นแหล่งพลังงานสำรองชั้นดี
ในกล้วย 1 ผล สามารถให้พลังงานได้ร่วม 100 แคลอรี่
มีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ 3 ชนิด ทั้ง ซูโครส ฟรุคโทส และกลูโครส
รวมไปถึงเส้นใยและกากอาหาร และอุดมด้วย วิตามินบี 6 ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน
มีแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียมและโพแทสเซียม ที่ช่วยป้องกันโรคความดันอีกด้วย
ในบรรดากล้วยทั้งหมด กล้วยน้ำว้าให้แคลเซียมสูงสุด
นอกจากนั้นก็ยังมีวิตามินบี 1 บี 2 ซี และไนอะซิน (บี 6) ในปริมาณที่เท่า ๆ กัน
แต่ที่ทำให้กล้วยน้ำว้า มีคุณค่าสารอาหารที่พิเศษกว่ากล้วยชนิดอื่น
นั่นก็คือ โปรตีนที่อยู่ในกล้วยน้ำว้า มีกรดอะมิโน อาร์จินิน และฮีสติดิน
สามารถช่วยเพิ่มเม็ดเลือดขาวให้มากขึ้นได้
ร่างกายของคุณก็จะสามารถต่อสู้กับไวรัสต่างๆได้
ถึงแม้ว่ากล้วยดิบก็มีผลเช่นเดียวกัน แต่หลังจากที่กล้วยได้รับการปิ้งหรือย่างแล้ว
โอลิโกแซ็กคาไรด์ที่อยู่ในเนื้อกล้วยจะเพิ่มขึ้น
ซึ่งมันจะช่วยกำจัดแบคทีเรียในลำไส้ได้อย่างดี
แล้วภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้นนั่นเองจ้า
ขอบคุณข้อมูลและภาพจากคุณ.Yupha Ninbodee
เรียบเรียงโดย.ที่นี่มีสาระ
Advertisements
Post a Comment