แบ่งปันเคล็ดลับเตรียมดินปลูกผักออร์แกนิค แถมปลอดภัยไร้สารเคมี

Advertisements

แบ่งปันเคล็ดลับเตรียมดินปลูกผักออร์แกนิค แถมปลอดภัยไร้สารเคมี

การปลูกผักออร์แกนิกในปัจจุบันนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่มีพื้นที่ในการใช้สอยไม่มากนัก แต่อยากจะปลูกผักไว้รับประทานเองในบ้านแบบปลอดสารพิษ ไม่พึ่งปุ๋ยเคมี และไม่ฉีดฮอร์โมนสังเคราะห์

ซึ่งเราสามารถใช้เทคนิคง่าย ๆ ในการเตรียมดินปลูกผัก เพาะเมล็ดป้องกันแมลงกัดกิน รวมทั้งการหมักปุ๋ย เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดินโดยสิ่งเหล่านี้ หากมีการจัดการที่เหมาะสมแล้ว การใช้สารเคมีก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป

เดิมแล้วการที่จะปลูกพืชผักนานาชนิดนั้นก็ต้องเริ่มต้นจากการเตรียมดินให้เหมาะสมก่อนปลูก จะตรวจสอบคุณภาพดินเสียก่อน โดยต้องคำนึงถึงคุณสมบัติการดูดซึมน้ำของดินเป็นหลัก ด้วยวิธีการสังเกตความสามารถในการอุ้มน้ำและระบายน้ำของดิน เพราะหากดินอุ้มน้ำมากเกินไป จะส่งผลทำให้รากของพืชผักเน่าเสียได้ง่ายดาย และหากดินไม่อุ้มน้ำเลยต้นผักก็อาจเหี่ยวเฉา เพราะขาดน้ำดูดซึมมาหล่อเลี้ยงลำต้นเเละใบ

ทดสอบการเตรียมดิน

ในส่วนของการตรวจสอบคุณภาพการอุ้มน้ำของดินนั้น ให้ปลูกผักอย่างง่าย ๆ โดยวิธีการขุดดินเป็นหลุมขนาด 30×30×30 เซนติเมตร จากนั้นเติมน้ำให้เต็มหลุมที่ได้ขุดไว้ แล้วจับเวลาช่วงน้ำเต็มจนน้ำดูดซึมเเห้งไป (ปกติจะใช้เวลาในการดูดซึมประมาณ 120 – 180 นาที) หลังจากนั้นให้เติมน้ำลงไปจนเต็มหลุมเป็นครั้งที่สอง และให้จับเวลาจนกระทั่งน้ำดูดซึมเเห้ง จากนั้นนำความลึกของทั้งสองรอบคือ 60 เซนติเมตร หารด้วยเวลาทั้งสองรอบบวกกัน ตัวอย่างเช่น

รอบเเรกใช้เวลา 120 นาที ส่วนรอบที่สองใช้เวลา 150 นาที รวมเป็น 270 นาที

นำ 60 เซนติเมตร หารด้วย 270 นาที เท่ากับ 0.22 เซนติเมตรต่อนาที ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานที่ดีสำหรับพืชผัก

-หากทำการทดสอบแล้วดินมีค่าใกล้เคียงกับค่ามาตรฐานนี้ ถือว่าเบื้องต้นเป็นดินที่มีความเหมาะสมในการปลูกพืชผัก กล่าวคือ อุ้มน้ำได้พอดี ระบายน้ำพอดีกับรากพืชผัก โดยปกติรากจะตื้นและเเผ่กระจายไปทั่วบริเวณผิวดิน

-หากผลการทดสอบดินมีค่าการดูดซับมากกว่าค่านี้ หมายความว่าดินชนิดนั้นมีคุณสมบัติไม่อุ้มน้ำ และมีอินทรียวัตถุน้อย มาก ควรเพิ่มอินทรียวัตถุจากปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และปุ๋ยพืชสด และดินชนิดนี้เหมาะกับพืชที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศเเห้งเเล้งนั่นเอง

-หากผลการทดสอบดินมีค่าการดูดซับน้อยกว่าค่านี้ นั้นแสดงว่าดินชนิดนั้นจะเป็นดินที่อุ้มน้ำมาก เหมาะกับพืชที่มีความสามารถเเช่ในน้ำขังได้เป็นเวลานาน ๆ

ในส่วนของดินที่เป็นกรดหรือด่างจะทำให้ความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหาร จากดินมีประสิทธิภาพน้อยลง เราสามารถทดสอบได้อย่างง่าย ๆ ได้โดยการนำดินมาละลายน้ำเเล้ว จึงวัดด้วยกระดาษลิตมัสเพื่อหาค่า pH (ค่าปกติ5.5 – 6.5) หากค่า pH เท่ากับ 4.5 – 5.0 นั้นแสดงว่าดินเป็นกรด ให้แก้ไขโดยใช้ปูนขาวช่วยปรับสภาพ และผลดีที่ตามมานั้นก็คือเเคลเซียมเสริมจากปูนขาวด้วย หรือถ่านแกลบเหมาะกับดินเหนียวที่มีภาวะเป็นด่าง ในถ่านเเกลบยังส่วนประกอบของมีโพเเทสเซียมสูง รวมถึงเมื่อย่อยสลายแล้ว ยังสามารถช่วยทำให้ดินร่วนซุยขึ้นอีกด้วย ในกรณีค่า pH มากกว่าหรือเท่ากับ 7 นั้นแสดงว่าดินเป็นด่าง ซึ่งเกิดจากการสะสมหินปูนในดินเป็นปริมาณมากนั่นเอง โดยมีการตรึงฟอสฟอรัสในดินมาก เป็นสาเหตุทำให้พืชขาดฟอสฟอรัส ควรเเก้ปัญหาโดยไถกลบตอซังอย่างสม่ำเสมอ เเละเพิ่มปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด เพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุให้เเก่ดินและช่วยให้ดิน อุ้มน้ำได้ดีขึ้น

ขอขอบคุณ : บ้านและสวน
เรียบเรียงโดย : หลิวหล่าวซือ
Advertisements

ไม่มีความคิดเห็น