ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ สมุนไพรดีๆที่ช่วยเรื่องการบำรุงผิว พอกหน้า และลดการอักเสบของสิว

Advertisements

ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ สมุนไพรดีๆที่ช่วยเรื่องการบำรุงผิว พอกหน้า และลดการอักเสบของสิว

จากการวิจัยพบว่าเนื้อของว่านหางจระเข้มีสรรพคุณทางยาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมาก สามารถใช้ในการรักษารอยฟกช้ำ แผลถลอก รอยแดงจากน้ำร้อนลวก แผลพุพองจากไฟไหม้ และแก้อาการระคายเคืองของผิวหนังที่โดนแสงแดดจัดๆ ได้เป็นอย่างดี

นอกจากว่านหางจระเข้จะใช้เป็นตัวยารักษาได้แล้ว ยังนำมาใช้ในด้านความงาม การบำรุงผิว โดยการนำเนื้อว่านหางจระเข้มาพอกหน้า เพราะสารในว่านหางจระเข้จะช่วยลดอาการอักเสบของสิว ผสานรอยแผลของสิว จุดด่างดำ บนใบหน้าให้จางลง และเพิ่มความชุ่มชื้นกระจ่างใสให้กับผิวหน้าได้อีกด้วย

วิธีใช้วุ้นว่านหางจระเข้

สังเกตว่าหากตัดว่านหางจระเข้จากต้นแล้ว จะมีน้ำยางสีเหลืองซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้และระคายเคืองต่อผิวได้ ดังนั้นควรจะตัดใบว่านหางจระเข้จากโคนใบโดยเลือกใบล่างสุดหรืออยู่นอกสุดของต้น จากนั้นนำมาหั่นเป็นท่อนๆ นำไปแช่น้ำทิ้งไว้ 10 นาทีให้น้ำยางไหลออกหมด แล้วจึงนำมาปอกเปลือกจนเหลือแต่เนื้อวุ้นใส ฝานเป็นแผ่นบาง ขยำให้ละเอียด แล้วจึงนำมาพอกรักษาแผล หรือ พอกหน้า ตามต้องการ

Tip: เมื่อตัดว่านหางจระเข้ออกมาแล้ว ควรใช้วุ้นสดภายใน 24 ชม. จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นควรปลูกว่านหางจระเข้ในกระถางสัก 2-3 ต้นในบ้าน เพิ่มความสะดวกในการใช้ได้ทุกเมื่อ


ข้อควรระวังในการใช้ว่านหางจระเข้

สำหรับบาดแผล ผู้ที่มีผิวบอบบางให้ใช้เฉพาะส่วนเนื้อวุ้นที่มีฤทธิ์ระคายเคืองน้อย

ถ้ากินว่านหางจระเข้แล้วอาเจียนและท้องร่วง ควรลดปริมาณลง และถ้ากิน 1 สัปดาห์ แล้วอาการยังไม่หายควรหยุดกิน

ผู้ป่วยที่ร่างกายแข็งแรงให้กินในขณะท้องว่าง หรือก่อนอาหาร ส่วนผู้ป่วยที่ร่างกายอ่อนแอให้กินหลังอาหาร

ควรเริ่มกินในปริมาณน้อยก่อนแล้วค่อยเพิ่มปริมาณมากขึ้นจนกินได้วันละ 2 ช้อนโต๊ะ

ควรกินตามสภาพสุขภาพร่างกาย เพราะว่านหางจระเข้จะให้สรรพคุณไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและอาการเจ็บป่วย

ว่านหางจระเข้ รักษาโรคกระเพาะ และลดไขมันในเส้นเลือด

นอกจากว่านหางจระเข้จะมีคุณประโยชน์ต่อผิวพรรณแล้ว วุ้นว่านหางจระเข้มีอะโลอีโมดีน (Aloe-emodin) อะโลอีน (Aloin) อะโลซิน (Aloesin) แมกนีเซียมแล็กเตท (Madmesium Lactate) ไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) อะล็อกติน เอ (Aloctin A) อะล็อกตินบี (Aloctin B) ซึ่งจะออกฤทธิ์ลดการอักเสบของเซลล์ลดการบวมของหลอดเลือด เนื้อหรือวุ้นว่านหางจระเข้ยังสามารถนำมารับประทานเป็นยาช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร สำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ


การกินวุ้นว่านหางจระเข้หรือดื่มน้ำสกัดจากวุ่นว่ายห่างจระเข้วันละ 5 – 8ช้อนโต๊ะ จะช่วยเสริมภูมิต้านทาน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ลดระดับไขมันในเส้นเลือด บำรุงสุขภาพ และป้องกันโรคหัวใจ


ที่มา...https://sukkaphap-d.com/
Advertisements

ไม่มีความคิดเห็น