“ปล่อยวาง” เตือนตัวเองทุกเช้าตอนตื่นนอน

“ปล่อยวาง” เตือนตัวเองทุกเช้าตอนตื่นนอน


ปล่อยวาง… บางทีเราก็ไม่เข้าใจคำว่า “ปล่อยวาง”

เรากำลังตกงาน เราไม่มีเงินจะส่งค่าบ้าน

เราไม่มีเงินจะส่งลูกเรียนหนังสือ

เราไม่มีเงินจะพาพ่อแม่ ไปโรงพยาบาล

เราจะปล่อยวางได้อย่างไร ใครจะแบกรับภาระ

การดูแลลูก การรับผิดชอบต่อครอบครัว

บางที.. เราอาจเข้าใจความหมายคำว่าปล่อยวางผิด

การปล่อยวางไม่ใช่การปล่อยทุกอย่าง ไม่ทำอะไรเลย

ไม่ยุ่งเกี่ยว ไม่สนใจ ไม่ทำหน้าที่ เหล่านี้ก็ไม่ใช่

ปล่อยวาง คือปล่อยวางความรู้สึกเห็นแก่ตัว

ปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นต่างๆ

เช่น น้อยใจในโชคชะตา หงุดหงิดที่อะไรๆมันแย่

เอาแต่บ่นสิ่งที่เกิดขึ้นมาเมื่อวานและมันผ่านไปแล้ว

คือ ปล่อยความรู้สึกไม่ดีทั้งหลาย

แล้วทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดในทุกๆวันที่ตื่นมา

ต้องทำด้วยสุขภาพใจที่ดี จะได้มีจิตใจที่เข้มแข็งในการแก้ปัญหา

ไม่ใช่ทำไปทุกข์ไป ทำไปบ่นไป เห็นเป็นเรื่องยุ่งๆ

เช่น เรายุ่งมาก เพราะ เราต้องดูแลพ่อแม่

ต้องดูแลลูก ดูแลภรรยาแล้วก็ต้องไปทำงาน

งานก็มีปัญหามากมาย ทำไปก็ทุกข์ไป ยิ่งทำก็ยิ่งยุ่ง

ยิ่งสับสน อย่างนี้มันไม่ได้ปล่อยอะไรเลย

แบบนี้ยังยึดติด ยึดติดในตัวเอง

ทำไมฉันต้องอย่างนั้น ทำไมฉันไม่ได้อย่างนี้

ทำไมฉันไม่เป็นแบบนี้ ทำไมๆๆ…

การได้อะไรบางอย่างมา และ สูญเสียอะไรบางอย่างไป

เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกสิ่งบนโลกใบนี้

ไม่เว้นแม้แต่ตัวโลกใบนี้เอง

ทุกการดับสูญไปของอะไรบางอย่าง

อาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่มันจบลง

อาจจะเป็นของใช้บางอย่างที่มันพังไป

อาจจะเป็นบางเรื่องราวที่มันกำลังผ่านไป

มันไม่ใช่จบแล้วจบเลย แต่… มันคือ

จบเพื่อเจอ จบเพื่อไปพบกับสิ่งใหม่

บางคนตกงาน แล้วไปหางานใหม่ได้งานที่ดีกว่าเดิม

บางคนโดนแฟนบอกเลิก ไม่นานก็เจอคนใหม่ที่ดีกว่า

คุณจะหยิบเอาเพชรจำนวนมากที่อยูตรงหน้าคุณได้ไง

หากคุณยังไม่ทิ้งหินที่กำอยู่ในมือตอนนี้

โลกนี้ไม่มีอะไรเป็นเรื่องบังเอิญ

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราเพราะมีเหตุผลบางอย่างเสมอ

และ บางอย่างที่มันต้องจบลง เพื่อเปิดทางให้สิ่งใหม่ๆ

ชีวิตเราจะผ่านสิ่งหนึ่งเพื่อไปเจออีกสิ่งหนึ่งเสมอ

ถ้าเรากำลังผ่านเรื่อง ร้ า ยๆ

ขอให้รู้ไว้ว่าเรากำลังจะได้เจอเรื่องดีๆ

เพราะชีวิตมันก็เป็นเช่นนั้นเอง


Cr ขอบคุณข้อคิดดีๆจาก : ธรรมะ ธรรมดา , ครูชัย