“คนเรามาเจอกันได้ ก็เพราะกรรมที่ทำมา” หนีกันไม่พ้นหรอก
Advertisements
“คนเรามาเจอกันได้ ก็เพราะกรรมที่ทำมา” หนีกันไม่พ้นหรอก
คนเรามาเจอกันได้ ก็เพราะกรรมที่ทำมา
เรามีทางเลือกว่า จะอยู่เพื่อใช้กรรม อยู่เพื่อสร้างกรรมไม่ดีเพิ่ม
อยู่ที่สร้างกรรมดีเพิ่ม หรือหนี..
จะหนีได้หรือไม่ได้นี่ก็ขึ้นอยู่กับว่ากรรมที่ทำมานั้นแรงแค่ไหนด้วย
จะดูว่ากรรมแรงหรือไม่แรง ก็ดูที่ความรู้สึกในใจนี่แหละ
ที่ยังมีความรู้สึกต่อเรื่องราวมาก….ก็แปลว่ากรรมดึงดูดอยู่แรงมาก ถ้ารู้สึกน้อยก็คือมีแรงกรรมดึงดูดเหลือน้อย
ยกตัวอย่างเรื่องของพระที่บวช ต้องการไปทางพ้นทุกข์ แล้วเจอคู่ในอดีตชาติ บางรูปก็หนีได้สำเร็จ บางรูปก็หนีไม่พ้น
ก็ขึ้นอยู่กับว่ากำลังใจในปัจจุบันกับแรงกรรมในอดีตนั้น อันไหนมากกว่า
การหนีที่กล่าวถึง หมายถึงการหนีทางใจ ทำได้ด้วยการภาวนา
เพราะกรรมส่งผลที่ใจ จะหนีได้ก็ด้วยวิธีเดียวคือภาวนาเท่านั้น
ถ้าเป็นอย่างคนธรรมดาหนี คือหนีไปที่ไกล ๆ แต่กรรมยังอยู่ ใจนั่นแหละยัง พั ว พั น อยู่
คนทั่วไปจะรู้สึกอยากหนีเป็นคราว ๆ เวลาทุกข์ แต่หนีไม่ได้จริง เพราะอย่างไรก็ต้องวนเวียนกลับมาใช้กรรมอีก
คนที่จะหนีกรรมได้เด็ดขาดจึงมีแต่ผู้ที่เพียรฝึกฝนพัฒนาจิตใจตามที่พระพุทธเจ้าท่านทรงค้นพบทางแล้วตรัสสอน
ดังนั้นจุดเริ่มต้น ต้องมีความชัดเจนก่อนว่า เราจะเดินทางไปไหน จึงจะเลือกถูกว่า
จะอยู่อย่างใช้กรรม แต่ระหว่างที่ใช้นี่ ใช้เฉย ๆ อย่างเดียวหรือเปล่า ใช้แบบหมดหรือไม่หมด
อยู่อย่างสร้างเหตุไม่ดีเพิ่ม คือทำให้ต้องทุกข์เพิ่ม
อยู่อย่างสร้างเหตุที่ดีเพิ่ม คือพัฒนาทางทุกข์ ไปในทางสุข แต่สุขแบบไหนต้องดูอีกที กรรมเขา กับกรรมไม่ดำไม่ขาวไม่เหมือนกัน
กรรมขาวคือกรรมในฝ่ายดีที่ทำให้เป็นสุข แต่กรรมไม่ดำไม่ขาว เป็นไปเพื่อการชำระ กิ เ ล ส ขั้นสูงคือเหนือดี คือไม่ติดดี
เพื่อออกจากทางวนเวียน สุขแล้วทุกข์ แล้วสุขแล้วทุกข์ ซ้ำซาก แค่เปลี่ยนตัวละคร
ขอขอบคุณที่มาจาก : เหตุเกิดจากความรัก
Advertisements
Post a Comment